xs
xsm
sm
md
lg

‘สีจิ้นผิง’เยือนมอสโกเข้าร่วมพิธีสวนสนามยิ่งใหญ่ และกระชับความเป็นหุ้นส่วน‘ไม่มีข้อจำกัด’กับ‘ปูติน’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


(ภาพจากแฟ้ม) ชายผู้หนึ่งยืนถ่ายรูปข้างๆ การ์ดบอร์ดภาพขนาดเท่าตัวจริงของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย (ขวา) และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน (ซ้าย) ที่บริเวณใจกลางกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025  ทั้งนี้ สี มีกำหนดเดินทางเยือนมอสโกอย่างเป็นทางการ 3 วันตั้งแต่วันพุธ (7 พ.ค.) นี้
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางไปยังกรุงมอสโกในวันพุธ (7 พ.ค.) เพื่อการเยือนเป็นเวลา 3 วัน โดยจะเข้าร่วมพิธีสวนสนามซึ่งทางการรัสเซียจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เนื่องใน “วันแห่งชัยชนะ” อีกทั้งมุ่งที่จะแสดงออกถึงความสนับสนุนที่ให้แก่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และกระชับความเป็นหุ้นส่วนกันในทางยุทธศาสตร์ “แบบไม่มีข้อจำกัด” ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

มอสโกกับปักกิ่งประกาศจับมือเป็นหุ้นส่วนกันแบบไม่มีข้อจำกัดนี้ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ปูติน ออกคำสั่งให้กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และความผูกพันทางทหารและทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสองที่ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ก็สร้างความปั่นป่วนแก่โลกตะวันตกนับแต่นั้น

การเยือนครั้งนี้ยังเกิดขึ้นขณะความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯกำลังพุ่งพรวดสืบเนื่องจากมาตรการรีดภาษีศุลกากรของอเมริกา โดยที่เวลาเดียวกันนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้เกี้ยวพาแสดงไมตรีจิตแก่ปูติน ในความพยายามที่จะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยการสู้รบขัดแย้งในยูเครน

ในบทความที่เขาเขียนให้หนังสือพิมพ์ รอสซีย์สกายา กาเซตา ของรัสเซีย ตีพิมพ์เผยแพร่ในวันพุธ (7) สี ได้กล่าวยกย่องคุณสมบัติ “ความหยุ่นตัวไม่ยอมแพ้ต่อแรงบีบคั้น” ของความผูกพันระหว่างจีน-รัสเซีย พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ออกไปห่างๆ อย่ามาแทรกแซงก้าวก่ายความสัมพันธ์นี้

“ทั้งสองฝ่ายควรร่วมมือกันต้านทานความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะแทรกแซงและบ่อนทำลายมิตรภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกันระหว่างจีน-รัสเซีย ไม่รู้สึกสับสนไปกับพวกเหตุการณ์ชั่วคราว หรือถูกรบกวนจากสภาพคลื่นลมแรง และใช้ความแน่นอนและความหยุ่นตัวไม่ยอมสยบของความร่วมมือกันทางยุทธศาสตร์จีน-รัสเซีย เพื่อร่วมกันกระตุ้นส่งเสริมกระบวนการของการทำให้โลกมีหลายขั้วอำนาจ และการสร้างประชาคมที่เป็นอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ” ผู้นำจีนเขียนเอาไว้เช่นนี้

ก่อนหน้านั้น 1 วัน ทำเนียบเครมลินก็ได้กล่าวสรรเสริญความสัมพันธ์รัสเซีย-จีน ว่า เป็น “ตัวอย่างที่แท้จริง” ตัวอย่างหนึ่งของความร่วมมือกัน และระบุว่าเวลานี้กำลัง “อยู่ในจุดสูงสุด” ของความร่วมมือกันนี้

เครมลินบอกด้วยว่า ระหว่างการพบปะกันแบบตัวต่อตัวที่กำหนดไว้ในวันพฤหัสบดี (8) ปูติน กับ สี จะหารือกันในเรื่องยูเครน และความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐฯ

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า ผู้นำทั้งสองจะ “เรียกร้องให้กลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South) รวมตัวกัน, จัดรูปร่างหน้าตาของธรรมาภิบาลระดับโลกให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง, แสดงการคัดค้านอย่างเด็ดขาดชัดเจนต่อพฤติการณ์ของการทำตามอำเภอใจฝ่ายเดียว และของการข่มเหงรังแกผู้อื่น, และร่วมกันกระตุ้นส่งเสริมโลกแห่งหลายขั้วอำนาจที่มีความเท่าเทียมและเป็นระเบียบ” ทั้งนี้ตามรายงานของ ซีซีทีวี สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน

แขกผู้มีเกียรติของพิธีสวนสนาม

ปูตินมีกำหนดจะกล่าวคำปราศรัย ณ พิธีเดินพาเหรดสวนสนามเนื่องใน “วันแห่งชัยชนะ” ประจำปี ครั้ง “ยิ่งใหญ่ที่สุด” ในกรุงมอสโก วันศุกร์ (9) นี้ เนื่องในวาระครบรอบ 80 ปีของความปราชัยของนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อปลุกเร้าความสนับสนุนให้แก่กองทหารของเขาที่กำลังสู้รบอยู่ในยูเครน

สี มีชื่ออยู่ในบัญชีแขกเกียรติยศของพิธีสวนสนามวันที่ 9 พ.ค.นี้ โดยเป็น 1 ใน 29 ผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมงานนี้

ปูติน ได้ออกคำสั่งถึงกองทัพรัสเซียให้หยุดยิงเป็นเวลา 3 วันในแนวรบต่างๆ ที่ยูเครน ในช่วงเวลาที่สอดคล้องกับพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะนี้

ขณะที่เคียฟปฏิเสธไม่ยอมรับ โดยมองว่าเป็นเพียงความพยายามของมอสโกที่จะหาหลักประกันความปลอดภัยให้แก่พิธีสวนสนาม และเรียกร้องให้หยุดยิงกันเป็นเวลา 1 เดือน

ยูเครนยังเตือนว่า ไม่สามารถรับผิดชอบได้สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในรัสเซียในพิธีดังกล่าว ทั้งนี้เคียฟได้ส่งฝูงโดรนเข้าไปก่อกวนโจมตีในมอสโกและเมืองใหญ่อื่นๆ ในช่วงหลายๆ วันก่อนหน้าวันสวนสนาม กระทั่งรัสเซียต้องสั่งปิดสนามบินสำคัญๆ เป็นระยะเวลาสั้นๆ รวมทั้งในวันพุธ (7) ด้วย

นอกจากนั้น ยูเครนคุยว่ามีบางประเทศติดต่อมาทางเคียฟ เพื่อขอหลักประกันด้านความปลอดภัยสำหรับผู้นำของพวกเขาที่กำลังเข้าร่วมพิธีสวนสนาม

จีนนั้นได้จัดส่งทหารจำนวน 102 คนเข้าร่วมงานสวนสนามคราวนี้ด้วย ถือเป็นหน่วยทหารต่างประเทศหน่วยใหญ่ที่สุดในบรรดา 13 ชาติซึ่งส่งกองทหารร่วมสวนสนาม

ยูเครนขู่เอาไว้ตั้งแต่วันอังคาร (6) ไม่ให้กองทหารต่างชาติใดๆ เข้าร่วมการสวนสนามในมอสโก โดยบอกว่าเป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้” และเป็นการช่วยเหลืมอสโก “ชำระชะล้างอาชญากรรมสงครามของพวกเขา”

สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งได้รับการจดจำรำลึกอย่างเป้นทางการในรัสเซียในชื่อว่า “มหาสงครามแห่งความรักชาติ” เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างวิบัติเลวร้ายต่อสหภาพโซเวียต โดยทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งพลเรือนและทหารรวมกันมากกว่า 20 ล้านคน

จีนประกาศตัวเป็นกลาง

เกี่ยวกับการสู้รบขัดแย้งในยูเครน จีนวาดภาพตัวเองเป็นฝ่ายเป็นกลางในตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่เกิดสงครามคราวนี้ ถึงแม้พวกรัฐบาลฝ่ายตะวันตกรวมทั้งเคียฟด้วย ระบุว่าสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดที่แดนมังกรมีอยู่กับรัสเซีย เป็นตัวหนุนช่วยทั้งทางเศรษฐกิจและทางการทูตอย่างสำคัญยิ่งให้แก่มอสโก

เดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านมา ตัวประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ได้ออกมากล่าวหาจีนกำลังจัดส่งอาวุธให้รัสเซีย รวมทั้งระบุว่าปักกิ่งรู้เห็นการที่มีคนสัญชาติจีนอย่างน้อย 155 คนกำลังไปสู้รบเคียงข้างกองทหารรัสเซีย

ปักกิ่งปฏิเสธเรื่องที่ว่าพลเมืองของตนกำลังถูกรัสเซียระดมรับสมัครกันเป็นจำนวนมากเพื่อให้ไปช่วยสู้รบในยูเครน อีกทั้งออกมาเร่งเร้าคนจีนอย่าได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสู้รบขัดแย้งทั้งหลาย

นอกจากนั้น จีนยังปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่า พวกเขากำลังจัดส่งอาวุธไปให้แก่คู่สงคราม ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตามที

อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาราว 10 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าจีนกับรัสเซียมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ปักกิ่งกำลังกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมอสโก ภายหลังจากที่รัสเซียถูกฝ่ายตะวันตกแซงก์ชั่นอย่างมโหฬาร

ทว่ารัสเซียยังคงมีฐานะเป็นคู่ค้าอันดับ 5 ของจีนเท่านั้น โดยที่สำคัญแล้วปักกิ่งพึ่งพาอาศัยมอสโกในเรื่องก๊าซธรรมชาติและน้ำมันซึ่งแดนหมีขาวมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์

พวกบริษัทจีนยังเคลื่อนไหวรวดเร็ว ในการก้าวเข้าไปเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้นมาจากการเฮโลถอยออกจากแดนหมีขาวของบรรดากิจการตะวันตก –โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาครถยนต์ –หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเข้าไปในยูเครน

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น