กกต.แจงข่าวยื่นศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ 60 สว.เอี่ยวฮั้วเลือกตั้ง คาดเคลื่อน ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ของการไต่สวนโดยคณะที่ กกต.ตั้งขึ้นร่วมกับดีเอสไอ หากมีมูล-หลักฐานจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาและให้มาชี้แจง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2
วันนี้ (7พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีปรากฎข่าว กกต.เตรียมลงดาบ 60 สว.ที่ทุจริตฮั้วเลือก สว.และเตรียมยื่นศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ 138 สว.นัั้น แหล่งข่าวจาก กกต.กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ที่ กกต.ตั้งขึ้น ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ กกต.กับเจ้าหน้าที่ DSI ร่วมเป็นกรรมการ โดยมี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการฯ กกต.เป็นประธาน ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นเป็นขั้นที่หนึ่งใน 4 ขั้นตอนของกระบวนการสอบสวนปกติในการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านสำนวนทุจริตการเลือกตั้ง ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2566 ถ้าดำเนินการไต่สวนแล้วมีมูลหรือหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว หรือฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 ก็จะมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาตามระเบียบเดียวกันเพื่อให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าว
เมื่อผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหาแล้วคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนก็ต้องนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาร่วมกับพยานหลักฐานที่มีก่อนสรุปและมีความเห็น เพื่อเสนอสู่ขั้นตอนที่ 2 คือขั้นของสำนักงาน กกต.ซึ่งพนักงานสืบสวน และไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวน จะดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก มาถึงเลขาธิการ หรือรองเลขาธิการที่ได้รับมอบหมาย เพื่อมีความเห็น ก่อนที่จะส่งต่อไปยังขั้นตอนที่ 3 คือคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด ปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 4 เพื่อวินิจฉัยชี้ขาดหรือสั่งการ ดังนั้นข่าวที่ปรากฏ จึงคลาดเคลื่อนจากขั้นตอนตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566