ปากีสถานปิดน่านฟ้า เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งกับอินเดีย ส่งผลกระทบหลายสายการบิน เส้นทางระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรป การบินไทยแจ้งผลกระทบ 10 เที่ยวบินล่าช้า สายการบินอื่นเลี่ยงน่านฟ้าปากีสถาน ไต้หวันหนักสุดต้องอ้อมอินเดียเพราะน่านฟ้ารัสเซียไปไม่ได้
วันนี้ (7 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเส้นทางบินบางเที่ยวบินของการบินไทย (TG) ในเส้นทางบินยุโรปและเอเชียใต้ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันนี้ เนื่องจากประเทศปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้า และสนามบินภายในประเทศบางแห่ง จากกรณีความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียใต้ ส่งผลกระทบต่อเส้นทางบินของเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ทำการบินผ่านน่านฟ้าประเทศปากีสถานตั้งแต่ช่วงนั้น ส่งผลกระทบให้อาจเกิดความล่าช้าของเที่ยวบินบางเที่ยวบินในเส้นทางดังกล่าว
ล่าสุด การบินไทย ประกาศปรับเปลี่ยนเวลาและเส้นทางการทำการบินในบางเที่ยวบิน ของวันที่ 6 และ 7 พ.ค. 2568 ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เที่ยวบินถึงจุดหมายปลายทางล่าช้าจากตารางบิน ในเที่ยวบินดังต่อไปนี้
1. เที่ยวบินที่ TG920 เส้นทาง กรุงเทพฯ-แฟรงก์เฟิร์ต
2. เที่ยวบินที่ TG940 เส้นทาง กรุงเทพฯ-มิลาน
3. เที่ยวบินที่ TG924 เส้นทาง กรุงเทพฯ-มิวนิก
4. เที่ยวบินที่ TG970 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ซูริก
5. เที่ยวบินที่ TG950 เส้นทาง กรุงเทพฯ-โคเปนเฮเกน
6. เที่ยวบินที่ TG910 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ลอนดอน
7. เที่ยวบินที่ TG960 เส้นทาง กรุงเทพฯ-สตอกโฮล์ม
8. เที่ยวบินที่ TG954 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ออสโล
• เที่ยวบินที่ทำการบินไปยังจุดหมายปลายทางตามตารางบินปกติ ได้แก่
1. เที่ยวบินที่ TG934 เส้นทาง กรุงเทพฯ-บรัสเซลส์
2. เที่ยวบินที่ TG930 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ปารีส
• สำหรับเที่ยวบินที่ TG346 เส้นทาง ละฮอร์-กรุงเทพฯ ปรับเวลาเที่ยวบิน จากเดิมออกเดินทางจากละฮอร์ ในวันที่ 6 พ.ค. 2568 เวลา 23.40 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึง กรุงเทพฯ เวลา 06.10 น. เปลี่ยนเป็น ออกเดินทางจากละฮอร์ วันที่ 7 พ.ค. 2568 เวลา 14.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 20.30 น.
สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางในเส้นทางดังกล่าว ติดตามข่าวสารและตรวจสอบตารางการบิน และรายละเอียดความคืบหน้าได้ทางเฟซบุ๊ก ฝ่ายสื่อสารองค์กรของบริษัท THAI Corporate Communication หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้าไม่ให้สายการบินที่อินเดียเป็นเจ้าของหรือดำเนินการบินผ่าน เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังอินเดียระงับสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุปี 2503 และลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต จากเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยว 26 รายในเมืองปาฮาลกัม รัฐจัมมูและแคชเมียร์ ฝั่งอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งอินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าให้การสนับสนุนเพียงด้านศีลธรรมและการทูตแก่ชาวแคชเมียร์ จากนั้นสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ปากีสถานกล่าวว่าได้ยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียตก 5 ลำ ขณะที่อินเดียยิงขีปนาวุธไปที่เป้าหมายที่ระบุว่าเป็นของกลุ่มผู้ก่อการร้ายในปากีสถาน
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อมูลการติดตามการบินของเครื่องบินโดยสารทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบัน สายการบินรายใหญ่หลายแห่ง เช่น แอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศส ลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนี บริติช แอร์เวย์ของสหราชอาณาจักร สวิส อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ของสวิตเซอร์แลนด์ และเอมิเรตส์แอรไลน์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เริ่มปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่ในการบินมุ่งหน้ายังอินเดีย โดยบินเหนือน่านฟ้าในทะเลอาระเบีย ก่อนเลี้ยวขึ้นไปทางเหนือ มุ่งหน้ายังกรุงนิวเดลี เลี่ยงการบินผ่านน่านฟ้าของปากีสถาน ทำให้เครื่องบินใช้เชื้อเพลิงมากว่าเดิมและใช้เวลาเดินทางนานกว่าเดิม
ขณะที่สำนักข่าว CNA ของสิงคโปร์ อ้างแหล่งข่าวจากเว็บไซต์ FlightRadar24 ระบุว่า สายการบินต่างๆ ได้ยกเลิกเที่ยวบินไปหรือกลับจากปากีสถานไปแล้ว 52 เที่ยวบิน เช่น สายการบินอีว่าแอร์ของไต้หวัน ปรับเที่ยวบินไปและกลับจากยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงน่านฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างอินเดียและปากีสถาน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โคเรียนแอร์ของเกาหลีใต้เริ่มเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบิน อินชอน–ดูไบ โดยเลือกไปทางใต้ ผ่านประเทศเมียนมา บังกลาเทศ และอินเดีย ส่วนเวียดนามแอร์ไลน์ จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับตารางการบินใหม่ในภายหลัง นอกจากนี้ เที่ยวบินตรงไปลอนดอน ของสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ถูกยกเลิก อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินจากไต้หวันไม่สามารถบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียได้ เนื่องจากไต้หวันเข้าร่วมการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก โดยเลือกบินผ่านอินเดีย ปากีสถาน และเอเชียกลางเป็นหลัก