ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงในวันอังคาร(6พ.ค.) สหรัฐฯจะหยุดทิ้งบอมบ์ถล่มพวกฮูตีในเยเมน โดยอ้างว่าพวกนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ ยอมตกลงหยุดโจมตีก่อความปั่นป่วนในทะเลแดง เส้นทางการขนส่งสินค้าสำคัญในตะวันออกกลาง
หลังจากทรัมป์ออกมาแถลง ทางโอมานบอกว่าพวกเขาเป็นคนกลางของข้อตกลงหยุดยิงนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ที่สุดของพวกฮูตี นับตั้งแต่สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม 2023
ภายใต้ข้อตกลง ทั้งสหรัฐฯและฮูตีจะไม่เล็งเป้าโจมตีอีกฝ่าย ในนั้นรวมถึงเรือต่างๆของสหรัฐฯในทะเลแดง และช่องแคบบับ อัล-มันดับ จากคำแถลงของโอมาน
ถ้อยแถลงจากโอกาสไม่ได้พาดพิงว่าพวกฮูตีเห็นพ้องหยุดโจมตีเล่นงานอิสราเอลด้วยหรือไม่ แต่ มาห์ดี มัล-มาชัต ประธานสภาการเมืองสูงสุดของฮูตีในเยเมน บอกว่าทางกลุ่มจะเดินหน้าให้การสนับสนุนกาซา และจะเดินหน้าโจมตีลักษณะดังกล่าวต่อไป
"ถึงพวกไซออนิสต์ทุกคน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จงอยู่แต่ในที่หลบภัยหรือออกจากประเทศของพวกแกในทันที เนื่องจากรัฐบาลที่ล้มเหลวของพวกเขาจะไม่สามารถปกป้องพวกแกได้หลังจากวันนี้เป็นต้นไป" สถานีโทรทัศน์อัล มาซิราห์ ที่ควบคุมโดยฮูตี อ้างคำกล่าวของมาห์ดี มัล-มาชัต
สหัฐฯยกระดับถล่มพวกฮูตีหนักหน่วงขึ้นในปีนี้ เพื่อหยุดการโจมตีการขนส่งสินค้าในทะเลแดง อย่างไรก็ตามพวกนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนส่งเสียงแห่งความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนจากปฏิบัติการดังกล่าว
"พวกเขาบอกว่ายินดีที่จะไม่โจมตีเราอีกแล้ว และเราจะไม่โจมตีเรือของพวกคุณ" ทรัมป์พูดถึงพวกฮูตี ระหว่างพบปะหารือกับ มาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว "และผมจะขอตอบรับคำพูดของพวกเขา และเราจะหยุดทิ้งบอมบ์ถล่มฮูตี โดยมีผลในทันที"
กบฏฮูตียิงเข้าใส่อิสราเอลและการเดินเรือสินค้าในทะเลแดง นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางทหารเล่นงานพวกฮามาสในกาซา พันธมิตรของฮูตี แก้แค้นที่พวกนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ โจมตีนองเลือดเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023
กองทัพสหรัฐฯระบุว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆมากกว่า 1,000 เป้าหมาย นับตั้งแต่เปิดปฏิบัติการในปัจจุบันในเยเมน ที่มีชื่อว่า Operation Rough Rider ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 15 มีนาคม โดยการโจมตีต่างๆนานาเหล่านั้น กองทัพอเมริกาเผยว่าสามารถปลิดชีพพวกนักรบได้หลายร้อยคนและแกนนำของฮูตีได้หลายราย
ความตึงเครียดพุ่งอยู่ในระดับสูงนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น แต่มันโหมกระพือหนักหน่วงขึ้นไปอีก นับตั้งแต่ขีปนาวุธลูกหนึ่งของฮูตีตกใส่สนามบินเบนกูเรียนของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์(4พ.ค.) กระตุ้นให้อิสราเอล ตอบโต้ด้วยการทิ้งบอมบ์ใส่ท่าเรือโฮเดดาห์ของเยเมนในวันจันทร์(5พ.ค.)
ต่อมากองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มท่าอากาศยานหลักของเยเมนในกรุงซานาในวันอังคาร(6พ.ค.) ถือเป็นการโจมตีเล่นงานกบฏกลุ่มนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วัน
ภายใต้การนำของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทางสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรโจมตีทางอากาศซ้ำๆเล่นงานเป้าหมายต่างๆของพวกฮูตี ในความพยายามรักษาไว้ซึ่งเส้นทางด้านการค้าอันสำคัญในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 15% ของการลำเลียงสินค้าทั้งหมดทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ไม่ได้บอกว่าสหราชอาณาจักรเห็นพ้องกับข้อตกลงหยุดยิงด้วยหรือไม่
หลัง ทรัมป์ ก้าวมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนมกราคม เขาตัดสินใจยกระดับโจมตีทางอากาศเล่นงานพวกฮูตี ยุทธการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพวกฮูตีบอกว่าพวกเขาจะกลับมาโจมตีเรือของอิสราเอลที่แล่นผ่านทะเลแดง ทะเลอาหรับ ช่องแคบบับ อัล-อันดับ และอ่าวเอเดน
ในวันที่ 28 เมษายน ปฏิบัติการหนึ่งซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือของสหรัฐฯ ถล่มศูนย์ผู้อพยพแห่งหนึ่งในเยเมน คร่าชีวิตผู้คน 68 ราย ถือเป็นหนึ่้งในโจมตีนองเลือดที่สุด นับตั้งแต่สหรัฐฯยกระดับความเข้มข้นของปฏิบัติการเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน
(ที่มา:รอยเตอร์)