“สนธิญา” ยื่น กกต. สอบ “พีระพันธุ์” ปมถือหุ้น 4 บริษัท พร้อมเรียกร้องให้แจงที่มาหุ้น ยันไม่มีการประสานจาก "เรืองไกร" หรือใคร มองติดป้ายแจกของเป็นความผิดพลาดของนักการชั้นเซียน
วันนี้ (6พ.ค.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวเข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบการกระทำที่จะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในกานถือหุ้น และเป็นกรรมการบริหาร จำนวน 4 บริษัท
นายสนธิญา กล่าวว่า ที่ยื่นเรื่องนี้ตนไม่ได้มีการประสานกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หรือบุคคลใดเลย เป็นการได้รับเอกสารที่มีผู้ร้องเรียนมา และตนขอเรียกร้องไปยังนายพีระพันธุ์ เพราะกรณีถือหุ้น หรือการเป็นกรรมการบริหารในบริษัทนั้นเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบได้ วันนี้ถ้านายพีระพันธุ์มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ถือหุ้นใน 4 บริษัทนั้นก็ออกมาแถลงชี้แจง หรือต่อให้จะถือหุ้นก็ควรที่จะออกมาแถลงว่าถือเพราะอะไร
"อย่าลืมว่านายพีระพันธ์เป็นรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นบุคคลสาธารณะที่จะต้องได้รับการตรวจสอบ จึงขอเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม คุณธรรมซึ่งทำให้นักการเมืองหลายคนใน 3-4 ปีที่ผ่านมาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปตลอดชีวิตแล้ว และอยากให้การบังคับใช้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยชอบธรรมเหมือนทุกๆคนที่เขาปฏิบัติกัน
นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า หลังยื่นกกต. แล้วก็จะไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อวินิจฉัยตามหนังสือบริคณห์สนธิ 4 บริษัทที่ส่งไป หากนายกฯยังนิ่งเฉยก็จะยื่นนายกฯต่อป.ป.ช.ให้ตรวจสอบประเด็นนี้เช่นเดียวกันหมายความว่านายกฯอาจจะพัวพันไปถึงการถือหุ้นที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ถึงจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยืนยันว่าการมาร้องนี้ไม่ได้มีการคิดแค้นเคืองโกรธนายพีรพันธ์แต่อย่างใด
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า เอกสารหลักฐานที่จะนำมายื่นต่อกกต. มีเอกสารใหม่เพิ่มขึ้นมา 2-3 ชุด เช่นกรณีการลาของนายพีระพันธ์ในช่วงที่เป็นสส.บัญชีรายชื่อ และกรณีการเข้ารับตำแหน่งก็นำมาประกอบให้กกต.พิจารณาและวินิจฉัย
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่กับหลักฐานที่มีอยู่ นายสนธิญา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตนที่เอามายื่นร้องเรียน แต่มีอีกหลายคนที่ออกมา แม้กระทั่งสื่อมวลชนก็ได้เอามาพูดเรื่องนี้กันจำนวนมากคิดว่าถ้าเขาไม่มั่นใจเขาคงไม่เอามาแถลงหรือไม่เอามาพูด ฉะนั้นวันนี้ไม่ใช่แค่ตนคนเดียวที่ยื่นเรื่องนี้ยอมรับว่านายพีระพันธ์เป็นนักการเมืองคุณภาพมีความรู้ความสามารถ และใสสะอาด แต่เมื่อมีเอกสารก็จำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อความชัดเจน
"กรณีการติดป้ายของแจกชาวบ้านนั่นก็เป็นความผิดพลาดอีกเรื่องหนึ่งของนักกฎหมายระดับชั้นเซียน แต่ก็ผิดพลาดได้ ที่อยากจะบอกคือคนที่ทำงานการเมืองจะต้องระมัดระวัง นายพีระพันธุ์เป็นอดีตผู้พิพากษามีความรู้ทางด้านกฎหมาย ดังนั้นจึงขอให้ออกมาแถลงข่าวว่าการถือหุ้นบริษัทนั้นจริงหรือไม่อย่างไร