ลำปาง/ชิคาโก – สุดทน..หนุ่มวัย 22 ยอมเปิดอกเล่าประสบการณ์สุดเลวร้ายสมัยเรียนประถมอยู่ลำปาง ถูกโค้ชสอนเล่นกีฬาอนาจารแต่ทำอะไรไม่ได้จนต้องหนีไปเรียนต่างประเทศ จนเป็นตราบาปติดตัว แม้ผ่านไปกว่า 10 ปี ล่าสุดพบเด็กตกเป็นเหยื่อเพิ่ม-ผู้ปกครองโทรหาขอให้เป็นพยาน ตัดสินใจแฉ-เตือนภัยถึงผู้ปกครอง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “บิว” ซึ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พร้อมกับเพื่อร่วมรุ่น อย่าง ไมกี้ ปณิธาน ก่อนจะไปเรียนต่างประเทศ ได้เขียนเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายของตัวเองที่เคยเจอสมัยเรียนชั้นประถม เพื่อเตือนภัยไปยังผู้ปกครองที่ยังส่งลูกหลานให้ไปเรียนกับโค้ชผู้สอนกีฬาชนิดหนึ่ง
เพราะตอนเองสมัยเด็กก็ถูกล่วงละเมิดแต่ทำอะไรไม่ได้ จนถึงวันนี้แม้ด้านจิตใจจะดีขึ้นและเกือบจะลืมเรื่องเลวร้ายไปแล้ว แต่วันนี้โค้ชคนดังกล่าวก็ยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ผู้ปกครองอีกหลายคนต้องทุกข์ใจ เพราะลูกเจอสภาพเหมือนตนเองและขอให้ตนเป็นพยาน
“บิว” ได้วีดีโอคอลจากชิคาโก้ เปิดตัวเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังแบบยาวเหยียดซึ่งพอสรุปได้ว่า เหตุเกิดตอนเรียนอยู่ชั้นประถม ชอบเล่นโรลเลอร์สเก๊ตบอร์ด คุณแม่พาไปเที่ยวสวนสาธารณะ เห็นพี่คนหนึ่งซึ่งเด็กๆเรียกว่าครูที(นามสมมุติ) สอนเด็กๆเล่นโรลเลอร์สเก๊ตบอร์ด ตนก็อยากเล่นแม่จึงพาไปเรียนเพราะเห็นว่าเป็นคนที่สุภาพ ใจดีกับเด็กๆ และตนเองเมื่อไปเรียนก็ไว้ใจเชื่อใจ
ตอนเรียนครูทีซึ่งชอบถ่ายรูปด้วยก็จะถ่ายรูปตนเองไปลงเพจ ซึ่งมีคนเข้ามากดไลค์มากมาย จนผมกลายเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคนในช่วงนั้น เขาจึงแนะนำชักชวนให้ตนสร้างโปรไฟล์เผื่อมีแมวมองมาสนใจ อีกทั้งยังมีการบอกว่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักเขาทำงานในวงการจะได้ส่งโปรไฟล์เผื่อได้เป็นดารา
“ตนทำตามทันทีโดยไม่ปรึกษาครอบครัวเลย แม้ว่าแม่จะคอยเตือน แต่ขณะนั้นตนก็ยอมรับว่าไม่ฟังแม่เลย ฟังแต่โค้ชคนเดียวเขาพูดอะไรก็เชื่อหมด ยอมรับว่าเขามีวาทศิลป์การพูดจูงใจมากทำให้คล้อยตามทุกเรื่อง”
หลังจากนั้นเขาก็ชวนตนมาถ่ายรูป จากชุดปกติ เป็นถอดเสื้อ โชว์กล้าม โหลดกางเกงเอวต่ำจนเกือบจะโชว์ของลับ ทั้งที่ตอนนั้นตนอายุยังไม่ถึง 15 ปี โดยอ้างว่าโมเดลลิ่งที่กรุงเทพชอบแบบนี้ แอบอ้างรู้จักคนในRS รู้จักพี่ย้งบ้าง มีเด็กเขาบางคนก็ถ่ายแบบนี้แล้วก็ได้เข้านาดาว ก็หลงเชื่ออยากเป็นดารา
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่ตนรับตัวเองไม่ได้ที่สุด (ปล.ดาร์กสุดๆถ้ารับไม่ได้ก็เลื่อนผ่านได้ครับ) คือ เขาขออมของลับของผมครับ และยังอ้างว่าโมเดลลิ่งที่กรุงเทพเขาก็ทำ ตอนนั้นผมเด็กมากกลัวมากแต่ก็ไม่รู้ทำไงก็ยอมเขาทุกครั้ง จนตนเกลียดตัวเอง เป็นตราบาปติดอยู่ในใจ
และก็ไม่ใช่ตนคนเดียวที่โดนกระทำเหมือนตน แต่ตอนนั้นไม่มีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดเขาได้ เขาแทรกเซงทุกอย่าง ทั้งบัญชี Facebook line Instagram อวดอ้างว่าแจ้งความไปก็เท่านั้นเขารู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ตนโกรธมากยิ่งเกลียดตัวเอง ที่ไม่สามารถเอาผิดกับคนแบบนี้ได้ จึงตัดขาดจากเขาแล้วหนีไปเรียนอยู่ต่างประเทศ
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ปกครองติดต่อมาขอให้ช่วยเป็นพยานเพราะลูกเขาโดนกระทำเช่นเดียวกับตน ก็คิดว่าจะถึงจุดจบของเขาสักทีที่ยังไม่เลิกพฤติกรรมอุบาทว์แบบนี้ แต่ด้วยกระบวนการยุติธรรมไทย คนที่สมควรโดนขังกลับปล่อยมาสู้คดีทั้งที่บุคคลคนนี้เป็นภัยอันตรายต่อเด็กและเยาวชน
“ทุกวันนี้ตนยังเห็นเห็นเขาเปิดสอนเด็กเล็กอยู่สวนเขลางค์ จึงอยากเตือนภัยผู้ปกครองทุกคนอย่าปล่อยลูกปล่อยหลานคุณไว้กับคนนี้เด็ดขาด”
หลังจากที่มีการโพสต์ ก็มีผู้ปกครองและสมาชิกในกลุ่ม ให้ความสนใจ สอบถามถึงบุคคลดังกล่าว และชื่นชมที่กล้าออกมาเปิดเผยและเตือนภัยให้กับผู้ปกครองได้ทราบ เพราะถือว่าเป็นเรื่องอันตรายต่อเด็กหากบุคคลดังกล่าวยังคงเปิดสอนกีฬาให้กับเด็กๆ ซึ่งก็อาจจะทำให้เด็กอีกหลายคนถูกล่วงละเมิดแล้วไม่กล้าบอกผู้ปกครอง และจะกลายเป็นตราบาปติดตัวของเด็กซึ่งอาจจะทำให้เด็กบางคนที่ไม่สามารถผ่านเรื่องเหล่านั้นไปได้ตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้