xs
xsm
sm
md
lg

ลุยเอนเตอร์เทนฯ-กาสิโน ไม่แคร์วิกฤติ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


แพทองธาร ชินวัตร - ทักษิณ ชินวัตร
เป็นการยืนยันชัดเจนจากปากของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่ารัฐบาลของเธอจะเดินหน้านโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รวมเอา “กาสิโน” อยู่ในนั้นด้วย โดยย้ำว่าหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นได้จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นได้อีกจำนวนมาก และแม้ว่าเธอไม่ได้กำหนดเวลาโดยเฉพาะในการผลักดันร่างกฎหมายเข้าสภาเพื่อพิจารณาในสมัยประชุมหน้าหรือไม่ แต่เชื่อว่าน่าจะผลักดดันเข้าสภากันอีกรอบ

น.ส.แพทองธาร ออกรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯแพทองธาร” กล่าวถึงเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า เงินใหม่ที่เข้ามา ประการแรกไม่ใช้เงินจากรัฐบาล ไม่ใช่เงินจากภาษีพี่น้องประชาชน แต่เป็นเงินของเอกชนที่จะมาลงทุนก้อนใหญ่ในประเทศเรา เงินลงทุนของต่างชาติที่จะมาลงทุน เหล่านี้ทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้เพิ่ม และเงินเหล่านี้ที่เข้ามาจะเอามาหมุนเวียนการเก็บภาษีคนที่เล่นกาสิโน การสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

เราจะทำตามโมเดลสิงคโปร์ เราไม่อยากมองเป็นมุมว่าเราจะทำเป็นสถานที่กาสิโนโดยเน้นย้ำเฉพาะกาสิโนเท่านั้น เราอยากทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้มีสถานที่จัดงาน จัดคอนเสิร์ต มีโรงแรม และกาสิโนมีมาตรฐานสากลโลกอยู่แล้ว มันต้องเป็น Gamble responsibly (การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ) มีกฎเกณฑ์ มีขั้นตอน ไม่ใช่เอะอะใครคิดว่าวันนี้ฉันอยากถูกรางวัลที่ 1 เดินเข้าไปแล้วได้ 30 ล้านบาทเดินออกมา มันไม่ใช่ ต้องเข้าไปอย่างที่เราสามารถเช็กประวัติได้ รู้ว่าใครเป็นใคร มีประวัติอาชญากรรมหรือไม่ เราต้องทราบหมดของทุกประเทศทั่วโลก คนที่เข้ามาประวัติต้องมีทรัพย์สิน

แต่ต้องสื่อสารกันว่า บางทีประเด็นการเมืองมันเข้มข้น แล้วอยากจะตีเรื่องนี้ให้ฉ่ำๆ ให้มันถูกเข้าใจผิดไปเลยว่าต้องเกิดอบายมุขสุดๆ แน่ที่ประเทศไทย ซึ่งมันไม่ใช่ประเทศที่เขาพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาเทรนด์โลกตรงนี้หมดแล้วเพราะเขาต้องการ man made (สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น) ให้เกิดขึ้น เราไม่อยากให้ประเทศไทยมานั่งเสียดายทีหลัง ว่าประเทศไทยช้าไปอีกแล้ว นี่คือโอกาสของเราคือสิ่งที่เราจะสร้างให้เกิดขึ้นทั้งหมดคือการจ้างงานคนไทยทั้งหมดประเทศไทยการท่องเที่ยวจะไม่มีคำว่าโลว์ซีซัน

ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ได้รับมอบหมายให้ สส.ลงพื้นที่ ชี้แจงทำความเข้าใจ ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า จากการที่ สส.พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ เสียงที่สะท้อนกลับมาประชาชนไม่ได้คัดค้าน เพราะเราได้ชี้แจงชัดเจนว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่กาสิโน เหมือนที่มีบางกลุ่มพยายามโจมตี แต่เป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่จะดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา

นายสรวงศ์ กล่าวว่า กฎหมายที่เราทำคือ การเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจมาลงทุนในประเทศ เราไม่ได้เอาเรื่องนี้เข้าสภา เพื่อจะสร้างกาสิโน แต่ยืนยันว่าเป็นการออกกฎหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุน และประชาชนไม่ได้คิดที่จะเข้าไปในกาสิโนอยู่แล้ว เพราะทราบดีว่ามีเงื่อนไขรัดกุมอยู่เยอะ และประชาชนยังทราบถึงแง่ดีว่า หากเรื่องนี้เกิดก็จะมีการพัฒนาตามมา เพราะรัฐจะได้ภาษีจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ สส.ก็ได้สะท้อนกลับมา เมื่อเปิดสมัยประชุม ก็จะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ เพราะกฎหมายรอการพิจารณาอยู่แล้ว โดยก่อนเปิดสมัยประชุมนายกฯ คงเชิญพรรคร่วมมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอีกครั้ง

การผลักดัน “เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ” เริ่มเห็นสัญญาณเดินหน้าต่อเนื่องมาตั้งแต่ คำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านี้ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะคำพูดและเหตุผล จะออกมาแนวเดียวกันกับที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดนั่นคือ เน้นว่า “กาสิโน” เป็นแค่ส่วนเล็กราว 10 เปอร์เซ็นต์ ใน “เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ” เท่านั้น ทำนองว่าเป็น “ปลีกย่อย” ไม่ได้เน้นจริงจัง รวมไปถึงการเข้าไปเล่นการพนันในบ่อน ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอะไรประมาณนี้

อย่างไรก็ดีฝ่ายที่คัดค้านนอกเหนือจากเรื่องที่เห็นว่าเป็นเรื่อง “อบายมุข” ที่ต้องไม่ข้องแวะเด็ดขาดแล้ว พวกเขายังเห็นว่า นโยบายดังกล่าวยังมีข้อพิรุธในเรื่องการออกใบอนุญาตที่มีเม็ดเงินมหาศาล รวมไปถึงการใช้ที่ดินของรัฐที่ไม่ชอบมาพากล เช่น ในกรุงเทพมหานคร มีการกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าหนึ่งในจำนวนพื้นที่ทำเลทองก็คือ ที่ดินท่าเรือกรุงเทพ หรือ “ท่าเรือคลองเตย” ติดแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งอีกหลายพื้นที่ ในพื้นที่เศรษฐกิจหลายจังหวัดทั่วประเทศ

นอกเหนือจากนี้ การที่รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี กล่าวทำนองว่า “บ่อนกาสิโน” นั้นไม่สำคัญเท่ากับ เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่เน้นในเรื่องศุนย์ประชุม สถานที่จัดคอนเสิร์ต เป็นต้น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักลงทุน เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สิ่งดังกล่าวรัฐบาล และเอกชนสามารถดำเนินการได้ทันที เพียงแต่ว่า ในเอนเตอร์เทนเมนต์ นั้นมี “บ่อนการพนัน” จึงต้องเสนอเป็นกฎหมายผ่านสภาเสียก่อน และถือว่าเป็น“ส่วนสำคัญ” ที่สุด

ที่น่าสังเกตก็คือ การผลักดันเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ อย่างจริงจังในท่ามกลางภาวะที่ประเทศไทยกำลังต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าก็คือ “ภาษีตอบโต้” จากสหรัฐอเมริกา ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขีดเส้นเอาไว้ภายใน 90 วัน โดยที่เรายังไม่รู้ว่ารัฐบาลได้เตรียมการสำหรับการเจรจาต่อรองอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันเมื่อสำรวจตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทยในช่วงเวลานี้ ถือว่ามีจำนวนลดลงมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน จนเกิดผลกระทบแล้ว

ทำให้นักวิชาการบางคน เช่น รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวโดยอ้างอิงสื่อต่างประเทศบางแห่งว่า เวลานี้ประเทศไทยเริ่มมีภาพลักษณ์ในเรื่อง “ดินแดนอันตราย” เป็นทางผ่านของการค้ามนุษย์ ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับบ่อนกาสิโน ในประเทศเพื่อนบ้าน การมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะโดนลักพาตัว เป็นต้น

เมื่อพิจารณาจากท่าทีที่ชัดเจนของ นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถือว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยังคงเดินหน้านโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่มีบ่อนกาสิโนอยู่ข้างใน เพียงแต่ว่ายังไม่ยืนยันว่า จะดันกฎหมายเข้าสภาในสมัยประชุมหน้าหรือไม่ หลังจากที่มีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่เห็นด้วย หลังจากที่มีกระแสต่อต้านในวงกว้าง เรียกว่า “ทุกองค์กร” ก็ว่าได้ จนทำให้รัฐบาลต้องถอยชั่วคราว

ดังนั้น การเดินหน้า “เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เหมือนกับว่า “ถอยไม่ได้” อาจเป็นเพราะ “มีดีล” ที่รับปากรับคำกับ “กลุ่มทุน” เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว หรือไม่ ทั้งที่รู้กันว่าหากเดินหน้าก็น่าจะเกิดวิกฤตมากกว่าสำเร็จ เพราะหากมองรอบตัวเวลานี้ถือว่ารัฐบาลกำลังเจอมรสุมรอบทิศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่ยอมรับกันแล้วว่า ปลายปีนี้น่าจะสาหัส การที่ดึงดัน “กาสิโน” แบบนี้ หากไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลังแล้วเชื่อว่าไม่น่าจะกล้าดำเนินการแน่นอน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น