นราธิวาส – ตำรวจเร่งสืบสวนความเชื่อมโยงเหตุยิงชาวบ้านตากใบ 3 ศพ เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่ยิง อส.ตาย 2 ศพ เมื่อปี 67 รอผลพิสูจน์ปลอกกระสุนที่ก่อเหตุว่าเป็นปืนของ อส.ที่ถูกขโมยไปหรือไม่
วันนี้ (4 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณี 6 คนร้ายขี่และซ้อนท้ายรถ จยย. 3 คัน ก่อเหตุยิงใส่บ้านของชาวบ้าน 3 หลัง ในพื้นที่บ้านปลักปลา ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ 1.นายดำ จันทร์คง, 2.ด.ญ.สสิตา จันทร์คง และ 3.นายแดง ตุนาสุข และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ 1.นายเชาว์ จันทร์คง และ 2. นายภาคีไนย รังเสาร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าบริเวณใกล้กับเชิงสะพานคลองชลประทาน ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับบ้านพักจุดเกิดเหตุและห่างเพียง 50 เมตร พบว่าสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้าย ซึ่งมีทั้งหมด 6 คน โดยหลังก่อเหตุได้ขี่รถ จยย.มุ่งหน้าหลบหนีไปทาง ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ ต.โฆษิต อ.ตากใบ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้ง 2 เส้นทาง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ประเมินจากภาพวงจรปิดที่กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุ ทั้งจำนวนคนและจำนวนยานพาหนะ รวมทั้งปลอกกระสุนปืน ขนาด 5.56 ม.ม. ที่ตรวจสอบพบในที่เกิดเหตุซึ่งมีมากกว่า 20 ปลอก เป็นกระสุนปืนขนาดเดียวกันทั้งหมด ยกเว้นปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 ม.ม. ที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเชื่อมโยงเป็นขนาดกระสุนปืนที่ยิงมาจากอาวุธปืน เอ.เค.102 ที่กลุ่มคนร้ายทั้ง 6 คน ขี่และซ้อนท้าย รถ จยย.3 คัน ตามประกบยิง สมาชิกเอกสนธยา ไชยสิทธิ์ และสมาชิกเอกอมร บุญทอง เสียชีวิต 2 ราย เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 พร้อมทั้งได้ขโมยอาวุธปืนประจำกาย เอ.เค.102 ของเจ้าหน้าที่ อส.ทั้ง 2 นายไปด้วย ขณะกลับจาก รปภ.ครูโรงเรียนวัดสิทธิสารประดิษฐ์
โดยเหตุการณ์ยิง อส. 2 ศพ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 เกิดบนถนนเลียบคลองชลประทาน ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับบ้านปลักปลา ม.5 ต.โฆษิต ที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านตาย 3 ศพ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 68 ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรอผลพิสูจน์ปลอกกระสุนปืน ว่าเป็นกระสุนปืนที่ยิงมาจากอาวุธปืนประจำกายของ อส.ที่ถูกขโมยไปหรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้จากการสืบสวนสอบสวนผลจากการซักทอดของผู้ให้การความช่วยเหลือในคดียิง 2 อส.เสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 จนเจ้าหน้าที่สามารถรู้เบาะแสตัวกลุ่ม 6 คนร้าย ที่ร่วมก่อเหตุในคดีดังกล่าวแล้ว และคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันทั้ง 6 คน ที่ก่อเหตุแล้วจะหลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาศัยข้ามตามช่องทางธรรมชาติ ที่เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ในแฟ้มบุคคล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง แต่ยังไม่ได้เป็นบุคคลที่ต้องคดีใด ๆ