xs
xsm
sm
md
lg

"จตุพร"แนะ"ทักษิณ"ต้องไปตามนัดศาลไต่สวน หวังคงไม่หนีอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อนว่า แนวโน้มสถานการณ์ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนการบังคับโทษตามหมายจำคุก ย่อมไม่เป็นผลดีต่อทักษิณ ชินวัตร จึงขออย่าหนีโทษไปต่างประเทศอีก เพราะติดคุก 1 ปี ไม่นานเลย และควรทำสิ่งดีๆ ให้เป็นแบบอย่างกับประชาชน

อีกทั้งยกประสบการณ์ส่วนตัวเคยถูกศาลนัดพร้อมและไต่สวนมาแล้วว่า ในปี 2554 ถูกอัยการแผนกคดีพิเศษยื่นถอนประกัน แม้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดถอนคำร้องถอนประกันออก แต่เมื่อความปรากฎแล้ว ศาลจึงใช้ดุลพินิจไต่สวนเอง และพิจารณาสั่งถอนประกันในวันเดียว ตนจึงติดคุก

ดังนั้น หากเทียบเคียงกับกรณีของทักษิณ ซึ่งยังไม่ได้ติดคุกจริงสักวัน เมื่อนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ยื่นคำร้องถึง 3 ครั้ง แม้ 2 ครั้งแรกถูกศาลยกคำร้อง แต่คำร้องที่ 3 ศาลสั่งถอดนายชาญชัยออกจากผู้ร้องให้ศาลบังคับโทษให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล เนื่องจากไม่มีสิทธิ์ร้องหรือไม่เป็นผู้เสียหาย แต่ศาลใช้อำนาจไต่สวนเอง และนัดพร้อมหรือไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม การนัดพร้อมหรือไต่สวนนั้น ผู้เกี่ยวข้องทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงทพ และแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ รวมทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และที่สำคัญทักษิณ ต้องมาศาลเพื่อทำการไต่สวนพิจารณา ซึ่งอาจเสร็จในวันเดียวหรือใช้เวลาหลายวันก็ได้

"ทักษิณต้องมาในวันนัดพร้อมหรือไต่สวน เพราะเป็นจำเลยและโจทก์คือ ปปช.ก็ต้องมาศาลเช่นกัน สิ่งสำคัญศาลกำหนดเวลา 30 วันให้ทุกฝ่ายทำคำชี้แจงยื่นต่อศาล ดังนั้น ทักษิณต้องมาศาลในวันนัดพร้อมหรือไต่สวน 13 มิ.ย.นี้"

นายจตุพร กล่าวว่า นอกจากนี้ ปปช. ยังอยู่ในสถานะรับคำร้องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้สอบสวนดำเนินการกับข้าราชการกรมราชทัณฑ์และแพทย์ รพ.ตำรวจ ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการช่วยเหลือทักษิณไม่ให้รับโทษอาญาตามคำพิพากษาลงโทษติดคุก และยังเป็นกรณีของความเหลื่อมล้ำของนักโทษด้วย เพราะกฎหมายมีการบังคับใช้สองมาตรฐาน

ดังนั้น ถ้ามีการไต่สวนและพิสูจน์ได้ว่า มีการละเมิดอำนาจศาลหรือมีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอาญาหรือผู้กระทำความผิดยังไม่เคยรับโทษตามคำพิพากษาของศาล หรือตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด และไม่เป็นไปตามพระบรมราชโองการลดโทษเหลือ 1 ปี ย่อมทำให้มีผู้เกี่ยวข้องในกรณีนี้อีกหลายคน

สิ่งสำคัญในวันที่ 8 พ.ค.นี้ จะมีสถานการณ์เกิดขึ้นใกล้เคียงกันเกี่ยวกับการรักษาทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยแพทยสภาจะประชุมผลสอบสวนที่คณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ส่งเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการแพทยสภา ซึ่งจะเกิดแรงกระเพื่อมของศาลฎีกามาสู่แพทยสภาได้โดยตรง

"แว่วๆ มา ซึ่งความจริงเป็นเช่นไรไม่รู้ว่า การสอบสวนในชั้นอนุกรรมการของแพทยสภามีการสั่งพักใบประกอบโรคศิลป์กับแพทย์เบื้องต้น 2 ราย และยังดำเนินการสอบเพิ่มอีก 5 ราย ซึ่งจะให้เสร็จก่อน 8 พ.ค.นี้"

นายจตุพร กล่าวว่า ตนไม่มีความประสงค์จะให้ใครติดคุก แต่การไม่ยอมรับโทษที่ถูกลดจาก 8 ปีเหลือ 1 ปี และไม่ได้ติดคุกสักวันเดียว แล้วกระบวนการยุติธรรมจะมีไว้ทำไม ส่วนการป่วยจริงหรือไม่จริงนั้น ได้รับการพิสูจน์จากคนทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว โดยเชื่อว่าป่วยไม่จริง

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อถามหากล้องวงจรปิดของ รพ.ตำรวจเพื่อนำภาพมาพิสูจน์ว่า ทักษิณป่วยจริง แต่กล้องกลับเพิ่งมาเสียยิ่งเป็นพิรุธมาก ดังนั้นถ้าบ้านเมืองนี้ยังดำรงเรื่องอภิสิทธิ์ชน ไม่ทำความจริงให้ปรากฎแล้ว บ้านเมืองจึงเกิดความเสียหายมาก

นายจตุพร ย้ำว่า วันที่ 13 มิ.ย.นี้ ทักษิณต้องไปนัดพร้อมหรือไต่สวน และโดยประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ศาลจะพิจารณาในวันนัดพร้อมเลย คือวันเดียวจบ ดังนั้นเรื่องนี้น่าติดตาม ยิ่งแพทยสภาทำผลสอบสวนออกมาในวันที่ 8 พ.ค. คนทั้งบ้านเมืองย่อมเห็นและรับรู้ถึงการป่วยจริงหรือไม่จริง ซึ่งจะทำให้เห็นผลปลายทางที่จะเกิดกับทักษิณ ซึ่งพฤติกรรมนี้ทักษิณไม่เคยจำผลการกระทำในอดีตของตัวเองเลย

"ทักษิณ เป็นอดีตนายกฯ ควรทำตัวเองให้เป็นแบบอย่างกับประชาชน หวังว่าคงไม่หนีอีก ถ้าหนีจะอ้างเรื่องอะไรออกนอกประเทศ ดังนั้น สถานการณ์ศาลไต่สวนจึงเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการพลิกสถานการณ์รัฐบาลไปอีกแบบหนึ่งทันที"

อีกทั้งกล่าวว่า ถ้าทักษิณอยู่สู้คดี แต่พร้อมจะเข้าคุกหรือไม่ เพราะต้องรู้ว่าเรือนจำรอบนี้เป็นคุกจริงๆ และจะหาหน่วยกล้าตายส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าหนีจะหนีไปอย่างไร และคงไปไม่ได้ง่ายๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว

“ขอสื่อสารไปถึงทักษิณว่า ทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ ไม่ว่าฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนทักษิณ ในช่วงกว่า 20 ปีมานี้ต่างก็ตาย บาดเจ็บ สูญสิ้นอิสรภาพและล้มละลายเป็นจำนวนมาก วันนี้เพียงแค่รับผิดชอบทำตามที่ถวายฎีกาว่า เคารพต่อกระบวนการยุติธรรม ยอมรับทำความผิดจริง และสำนึกแห่งการกระทำแล้ว แต่วิญญูชนรับรู้พฤติกรรมที่ปรากฎว่า ย้อนแย้งกับความเชื่อของผู้คน ดังนั้นหวังว่าจะได้ยืนหยัดอย่างสง่างามเข้าคุกรับโทษ 1 ปี ซึ่งไม่นานเลย”

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อทักษิณ ไม่ผ่านด่านแรกในการเคารพกระบวนการยุติธรรม ส่วนด่านการตั้งบ่อนกาสิโนเป็นการใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาช่วยประเทศอย่างนั้นหรือ? อย่างไรก็ตาม ถ้าทักษิณเชื่อว่าตัวเองบริสุทธิ์ต้องเผชิญหน้าพิสูจน์ความจริงและอย่าหนีอีก

ประเทศไทยต้องมาก่อน