xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’แก้ตัวพัลวัน จีดีพีสหรัฐฯไตรมาสแรกติดลบ ยืนกรานนโยบายภาษีของตนกำลังจะผลิดอกออกผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พูดระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรีของเขาที่ทำเนียบขาวในวันพุธ (30 เม.ย.)
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับในวันพุธ (30 เม.ย.) ภาษีศุลกากรที่ตัวเขาประกาศอาจทำให้สินค้าในอเมริกามีจำนวนน้อยลงและแพงขึ้น โดยกล่าวว่า เด็กอเมริกันอาจจะ “มีตุ๊กตา 2 ตัวแทนที่จะเป็น 30 ตัว” แต่ยืนกรานว่าจีนจะเจ็บหนักกว่าจากสงครามการค้าของเขา ทั้งนี้ประมุขสหรัฐฯพูดเช่นนี้ในความพยายามที่จะปลอบขวัญเพิ่มความมั่นใจขึ้นมา ขณะกำลังมีความหงุดหงิดว้าวุ่นว่า นโยบายของเขาจะทำให้ประเทศชาติถลำลงสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากรายงานตัวเลขใหม่ของรัฐบาลแสดงว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในภาวะหดตัวระหว่างช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้

ทรัมป์ยังรีบโยนความผิดไปให้อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต สำหรับความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจใดๆ ที่กำลังปรากฏให้เห็นเวลานี้ ขณะบอกระหว่างประชุมกับคณะรัฐมนตรีของเขาในวันพุธ ว่า ภาษีศุลกากรของเขาทำให้จีน “ประสบความยากลำบากอย่างมหาศาล เพราะโรงงานต่างๆ ของพวกเขาไม่มีธุรกิจอะไรให้ทำ” และสำทับว่า อเมริกาไม่จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าจากจีนเลย แม้นั่นอาจทำให้มีสินค้าน้อยลงและราคาแพงขึ้นกว่าปกติก็ตาม

“พวกคุณรู้ไหม บางคนพูดว่า ‘แย่แล้ว ชั้นวางสินค้า (ตามห้างร้าน) กำลังจะว่างเปล่า’แล้ว” ทรัมป์กล่าวสาธยายสมมุติฐานของเขาต่อ “ครับ บางทีเด็กๆ จะมีตุ๊กตาแค่ 2 ตัว แทนที่จะมี 30 ตัว ดังนั้น บางทีตุ๊กตา 2 ตัวนั่นจะมีราคาแพงขึ้นสัก 2-3 เหรียญจากราคาปกติของมัน”

ทรัมป์บอกมาพูดป้องกันตัวเองเช่นนี้ หลังจากในวันเดียวกันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเพิ่งรายงานว่า เศรษฐกิจอเมริกาไตรมาสแรกติดลบ 0.3% เทียบกับที่ขยายตัว 2.4% ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2024 เบื้องหลังการตกต่ำนี้คือ การนำเข้าที่พุ่งกระฉูดเนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามสั่งซื้อสำรองสินค้าเอาไว้ ก่อนที่การขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์จะมีผลบังคับใช้กับทั้งภาคยานยนต์ เหล็กกล้า อะลูมิเนียม และกับเกือบทุกประเทศคู่ค้า ขณะที่สัญญาณบวกจากการบริโภคภายในประเทศซึ่งเพิ่มขึ้น ก็ดูจะมาจากปัจจัยเดียวกัน นั่นคือเป็นการที่ผู้บริโภคซื้อหาข้าวของไว้ก่อนที่สินค้าจะถูกบวกภาษีใหม่และปรับราคาสูงขึ้น

กระนั้นก็ตาม ทรัมป์ที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม กลับแก้ตัวว่า ข่าวลบเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ดัชนีสำคัญทั้งสามตัวในวอลล์สตรีทร่วงลงช่วงสั้นๆ ในวันพุธนั้น ล้วนแล้วต้องถือเป็นผลงานของไบเดน พร้อมกับย้ำยืนยันว่า เร็วๆ นี้ภาษีศุลกากรของเขาจะเริ่มส่งผลให้เห็นในทางบวก โดยบริษัทจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์กำลังหลั่งไหลเข้าลงทุนในอเมริกา ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง เพียงแต่ตอนนี้อเมริกาจำเป็นต้องขจัดผลกระทบที่คั่งค้างมาจากคณะบริหารไบเดนเสียก่อน และยืนกรานอีกครั้งว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดหุ้นในขณะนี้ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรของเขาแม้แต่นิดเดียว

อย่างไรก็ดี ทางด้านพรรคเดโมแครตยืนยันว่า รายงานของกระทรวงพาณิชย์สะท้อนว่า เศรษฐกิจกำลังเสียศูนย์อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากทรัมป์กลับสู่ทำเนียบขาว

ส.ส.ซูซาน เดลเบนี ของเดโมแครตจากรัฐวอชิงตัน โจมตีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของผลกระทบอันตรายจากนโยบายเดาสุ่มของทรัมป์ และตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ผลิตอเมริกายังคงต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากจีนในการประกอบสินค้าสำเร็จรูป

เดลเบนีเสริมว่า แนวทางการค้าของทรัมป์สะท้อนความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลงทุน และความแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทในประเทศต้องการในเวลาตัดสินใจสร้างโรงงานและสร้างงานเพิ่มขึ้น

“ในทางกลับกัน ความสับสนอลหม่านและความชะงักงันไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนแต่อย่างใด” เธอบอกพร้อมสำทับว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งต้องการเสถียรภาพและความแน่นอนซึ่งไม่มีอยู่ในอเมริกาขณะนี้

พวกนักการเมืองพรรคเดโมแครตยืนยันว่า ทรัมป์ได้รับมอบระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง อัตราว่างงานต่ำ และอัตราเงินเฟ้อที่กำลังลดลงจากคณะบริหารของไบเดน ทว่า แผนภาษีศุลกากรกลับทำให้แนวโน้มที่ดีเหล่านั้นเกือบจะหยุดชะงักทันที

เฮเธอร์ บูชี อดีตสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวในยุคไบเดน บอกว่า แค่ 100 วันที่เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ทำให้เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกลับติดลบ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากความไม่สอดประสานของนโยบายเศรษฐกิจและการบริหารนโยบายผิดพลาดของทรัมป์ที่พบได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน เอพีตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ทรัมป์พยายามสื่อว่าเป็นผลงานของตัวเขา กลับมีบางจุดที่ขัดแย้งกันเองและละเลยข้อมูลที่บ่งชี้ปัญหา ตัวอย่างเช่น ทรัมป์อยากได้ความดีความชอบในการบริหารประเทศเชิงรุกในช่วง 100 วันแรกซึ่งรวมถึงการปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจำนวนมาก และการจุดชนวนสงครามการค้าด้วยการรีดภาษีสินค้าจีน 145%

นอกจากนั้นเขายังต้องการโยนความผิดให้ไบเดนที่พ้นตำแหน่งไปตั้งแต่หลายเดือนก่อนสำหรับเรื่องที่ตลาดการเงินเวลานี้ตอบสนองแง่ลบต่อนโยบายภาษีศุลกากร ทรัมป์ยังคุยว่า กำลังเจรจาเพื่อสร้างข้อตกลงทางการค้าและผ่อนคลายภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ แต่ขณะเดียวกันกลับคาดหวังรายได้จากภาษีศุลกากรหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อนำมารองรับแผนการลดภาษีเงินได้อย่างมโหฬารที่ตัวเขากำลังจะผลักดันให้รัฐสภาอนุมัติ

(ที่มา: เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น