คปท.พร้อมแนวร่วม บุกหน้าสถานที่ประชุม GBC ย้ำจุดยืนคนไทยจะไม่ยอมเสียดินแดน เรียกร้องกองทัพยืนหลัดรักษาอธิปไตย เพราะประชาชนไม่ไว้ใจนายกฯ แพทองธาร ที่มีพ่อชื่อทักษิณ “พิชิต” จวกฝ่ายไทยคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ แต่เขมรรุกคืบจะเอาดินแดนเพิ่ม ด้านตัวแทน ผบ.สส.แจงวันนี้คุยเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ได้คุยเรื่องเขตแดน ย้ำยึดมั่นรักษาธิปไตย พร้อมนำข้อเสนอส่งผู้เกี่ยวข้องต่อไป
วันนี้(1 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม และกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นายนัสเซอร์ ยีหมะ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. นายใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม ได้เคลื่อนขบวนจากสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล ไปยังหน้าโรงแรม รอยัล ออคิด เซอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เพื่อจัดกิจกรรมชุมนุมปราศรัยคู่ขนานการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา (GBC) ที่หน้าโรงแรม โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สน.บางรัก และ สน.พลับพลาไชย 2 จำนวน 40 นาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย เข้ามาดูแลสถานการณ์
นายอานนท์ กลิ่นแก้ว กล่าวว่า การเดินทางมายังสถานที่ประชุม GBC ในวันนี้ เพื่อยื่นหนังสือแสดงจุดยืนว่าคนไทยจะไม่ยอมไม่เสียดินแดน ต่อ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และเรียกร้องให้เหล่าทัพยืนหยัดมั่นคงในการรักษาอธิปไตยของไทย เพราะว่าเราไม่ไว้ใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ที่มีพ่อชื่อทักษิณ ชินวัตร ในการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ซึ่งหากวันนี้ผลการเจรจาออกมาแล้วไทยเสียเปรียบกัมพูชาก็ขอให้เตรียมตัวไว้เลย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมซึ่งได้ขอทำกิจกรรมบริเวณหน้าแถวของเจ้าหน้าที่ และขอส่งตัวแทน 10 คน เข้ายื่นหนังสือ แบ่งเป็นแกนนำ 5 คน และสื่อของกลุ่มอีก 5 คน เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตตามคำร้อง แต่ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมงดใช้เครื่องขยายเสียงขณะมีการประชุม ซึ่งทางกลุ่มพร้อมปฏิบัติตาม
นายพิชิต ได้กล่าวปราศรัยถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เคยยืนยันว่าพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาจะเน้นการหาผลประโยชน์ก่อนเจรจาเรื่องเขตแดน ซึ่งสอดคล้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยแสดงความเห็น การที่รัฐบาลไทยมุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ แล้วจะมีการประชุมเรื่องเขตแดนในวันนี้ทำไม คำถามคือไทยคิดเรื่องพื้นที่ทับซ้อนเพื่อหาผลประโยชน์ แล้วแบ่งกันกับกัมพูชา 50:50 แต่กัมพูชาไม่คิดอย่างนั้น เขาต้องการรุกคืบเอาปราสาทตาเหมือนธมด้วย นี่คือธงและเป้าหมายของรัฐที่แตกต่างกัน เพราะธงของรัฐบาลไทยนั่งทับแต่ผลประโยชน์ ไม่คำนึงถึงอำนาจอธิปไตยของประเทศ
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พล.ท.ณัฐพงษ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่าการประชุม GBC วันนี้เป็นระดับที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นที่กระทบความเป็นอยู่ของประชาชน อาทิ ปัญหาหมอกควัน แต่เรื่องเขตแดนไม่ได้คุยกันในวันนี้ แต่จะต้องไปพูดคุยในการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission -JBC) เพราะมีเรื่องทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเวทีนี้เป็นเวทีใช้ในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ขอชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมและยืนยันว่ากองทัพและพวกเราคนไทยทุกคนยึดมั่นในการรักษาธิปไตยของชาติเป็นอันดับแรก ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมมั่นใจ ส่วนเรื่องที่ยื่นมาก็จะนำไปมอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
