xs
xsm
sm
md
lg

รีดภาษีเข้าตัว!เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวผิดคาดไตรมาสแรก ทรัมป์รีบโบ้ยเป็นเพราะไบเดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวผิดความคาดหมายในช่วง 3 เดือนแรกของปี ในขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งทะยานอันเนื่องจากความหวาดวิตกที่มีต่อแผนรีดภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีรายนี้กลับกล่าวโทษตรงๆไปที่ โจ ไบเดน ผู้นำคนก่อน

ตัวเลขนำเข้าที่พุ่งสูงสะท้อนว่าภาคธุรกิจและพวกผู้บริโภคเร่งกักตุนสินค้าต่างประเทศ ก่อนหน้ามาตรการรีดภาษีทางการค้าอย่างครอบคลุมของทรัมป์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ตามหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวอชิงตัน ทรัมป์เน้นย้ำว่าการเติบโตที่ถดถอยลง เป็นผลจากมรดกตกทอดในนโยบายต่างๆนานาของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน "มันเป็นเพราะไบเดน ไม่ใช่ทรัมป์" เขากล่าว

ทรัมป์ พยายามใช้สุ้มเสียงในแง่บวก โดยชี้ว่ามีการลงทุนภายในประเทศโดยรวมเพิ่มขึ้น 22% ระหว่างไตรมาสแรก "เรื่องนี้ต้องใช้เวลา และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเรียกเก็บภาษีศุลกากร เพียงแต่ไบเดนได้ทิ้งตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่ ๆ ให้เรา แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มรุ่งเรืองขึ้น สหรัฐฯจะไม่เหมือนประเทศอื่น ขอให้อดทนเข้าไว้" ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรัสต์โซเชียล

อย่างไรก็ตามรายงานของเอเอฟพีระบุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบรายปีอยู่เหนือระดับ 2% ในทุกๆปี ครั้งที่ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเคยแตะระดับ 2.8% ในปี 2024

ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสแรก ในวันพุธ(30 เม.ย.) ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศหดตัว -0.3% ในไตรมาสดังกล่าว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าขยายตัว 0.4% หลังจากขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ถือเป็นการหดตัวไตรมาสแรก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯระบุในถ้อยแถลงว่า การหดตัวของจีพีดี ส่วนใหญ่แล้วสืบเนื่องจากการนำเข้าเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงและรัฐบาลลดการใช้จ่าย

ทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง เรียกจีพีดีนี้ว่า เป็นตัวเลขบ่งชี้ที่มองย้อนหลัง "ไม่น่าประหลาดใจ มันเป็นสิ่งหลงเหลือจากหายนะทางเศรษฐกิจที่ไบเดนทิ้งไว้ ที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ" แคโรไลน์ ลีวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวกล่าว "ตัวเลขที่ซ่อนอยู่ที่บอกเรื่องราวความเป็นจริงของช่วงเวลาที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังจะปรากฏออกมา"

ตัวเลขจีดีพี ถูกเผยแพร่ออกมาในวันที่ 101 นับตั้งแต่ ทรัมป์ กลับสู่ทำเนียบขาว ในขณะที่มาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีรายนี้ ที่เล่นงานประเทศต่างๆเกือบทั่วโลก ได้โหมกระพือแรงเทขายในตลาดการเงิน ก่อความปั่นป่วนในระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่โควิด-19

วุฒิสมาชิก ชัค ชูเมอร์ แกนนำระดับสูงของพรรคเดโมแครต ได้โอกาสโจมตีประธานาธิบดี โดยระบุในถ้อยแถลงว่า "การดิ่งลงของจีพีดี เป็นสัญญาณเตือนดังๆถึงทุกคนว่า โดนัลด์ ทรัมป์ และสมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรส กำลังฆ่าเศรษฐกิจของเรา"

หลังจากเกิดความปั่นป่วนอย่างหนักในตลาดในช่วงต้นเดือนเมษายน รัฐบาลทรัมป์แถลงระงับรีดภาษี 90 วัน ที่กำหนดเล่นงานประเทศต่างๆหลายสิบชาติ ยกเว้นจีน เพื่อเปิดทางสำหรับการเจรจาทางการค้า แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตราภาษีพื้นฐาน 10% กับทุกประเทศ

อย่างไรก็ตามขณะเดียวกัน รัฐบาลทรัมป์ ปรับเพิ่มเพดานภาษีเล่นงานจีนเพิ่มเติม และเมื่อรวมกับมาตรการรีดภาษีที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม ส่งผลให้เพดานภาษีที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีน รวมเป็น 145% ทั้งในปักกิ่งตอบโต้ด้วยการปรับเพิ่มเพดานภาษีสูงลิ่วเช่นกัน เล็งเป้าเล่นงานสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ

ณ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธ(30เม.ย.) ทรัมป์ บอกว่าจีน กำลังถูกทุบตีจากมาตรการรีดภาษี และแสดงความหวังว่าจะยังคงทำข้อตกลงกับปักกิ่ง ชาติที่เขาพาดพิงในฐานะแกนนำที่ฉีกเศรษฐกิจของอเมริกา

พวกนักเศรษฐศาสตร์จากเวลส์ ฟาร์โก เขียนในบันทึกที่ส่งถึงนักลงทุน ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯในเวลานี้ เสี่ยงเจอกับภาวะถดถอยมากกว่าเมื่อ 1 เดือนก่อน "แต่การหดตัว 0.3% ของจีดีพีในไตรมาสแรก ยังไม่ใช่จุดเริ่มต้น" โดยระบุว่า "มันสะท้อนการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในนโยบายการค้า ที่ลงเอยด้วยการเป็นตัวฉุกลากตัวเลขการส่งออกสุทธิครั้งใหญ่ ย้อนกลับไปกว่าครึ่งศตวรรษเลยทีเดียว"

(ที่มา:เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น