xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นถลุงทองคำ “หลวงตามหาบัว” เศรษฐพุฒิห่วงแก้ กม.รวมบัญชี ทุนสำรองฯ เสี่ยงถูกนำไปใช้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ แสดงความเป็นห่วงการแก้กฎหมาย 2 ฉบับ "พ.ร.บ.ธปท." และ "พ.ร.บ.เงินตรา" รวมบัญชีทุนสำรองระหว่างประเทศปนกับบัญชีทำธุรกรรม เสี่ยงถูกนำไปใช้แม้แต่ทองคำ “หลวงตามหาบัว” ก็ไม่รอด เตือนหากมีสัญญาณก็ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวฯ บริจาคทองคำเพิ่ม 10 กก. รวมแล้ว 13,139 กก. อันดับที่ 17 ของโลก

วันนี้ (30 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในระหว่างพิธีรับมอบทองคำจากคณะศิษย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่สวนแสงธรรม ถนนพุทธมณฑล สาย 3 กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. แสดงความเป็นห่วงถึงกรณีที่มีการแก้กฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.เงินตรา ซึ่งมีความเสี่ยงที่เงินที่ทุนสำรองระหว่างประเทศ และเงินผ้าป่าช่วยชาติจะถูกนำไปใช้

“หากถามว่า จะมีอะไรที่ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงเงินสำรองเงินตราตรงนี้ หรือเงินบริจาค ถ้าจะมี คือ การแก้กฎหมาย 2 ฉบับที่กล่าวมา เอามาไว้รวมกัน ซึ่งเป็นจุดเสี่ยง ซึ่งเราก็ดูแลไม่ให้เกิดขึ้น และต้องจับตามอง หากมีการเกิดขึ้น ก็มีความสุ่มเสี่ยงของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศและเงินผ้าป่าช่วยชาติจะถูกนำไปใช้ ดังนั้น หากมีสัญญาณการแก้กฎหมาย ก็ต้องเฝ้าระวัง” นายเศรษฐพุฒิ ระบุ

ทั้งนี้ การดูแลความปลอดภัยในเชิงกฎหมาย เพื่อปกป้องและคุ้มครองทองคำนั้น พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2485 จะกำกับดูแลบัญชีทำธุรกรรมซื้อขายดูแลเสถียรภาพเพื่อดูแลค่าเงิน ส่วน พ.ร.บ.เงินตรา ปี 2501 จะมีการแยกบัญชีชัดเจน คือ บัญชีทุนสำรองระหว่างประเทศ จะแยกเป็น 3 บัญชีย่อย โดยทองคำจะอยู่ในบัญชีพิเศษ เทียบเคียงกับเงินก้นถุง มีความปลอดภัยในแง่กฎหมาย ซึ่งการแก้กฎหมายดังกล่าวคงต้องจับตามองไปด้วยกัน ไม่ให้เกิดมีความสุ่มเสี่ยงที่จะนำทุนสำรองออกไปใช้ ส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่ ธปท. ฝากในต่างประเทศ ยังอยู่ครบในที่ปลอดภัย

โดยการเก็บรักษาทองคำที่ได้รับบริจาค และการดูแลในเชิงรูปธรรมนั้น ทองคำทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ที่ห้องมั่นคง มีการตรวจสอบปีละ 2 ครั้ง เพื่อดูแลความปลอดภัยของตู้และกล่องเก็บ และทุกๆ 5 ปี จะมีการสุ่มตรวจ 3% ของทองคำทั้งหมด โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาร่วมตรวจด้วย โดยทองคำ 13,129.832 กิโลกรัม ยังอยู่ครบทั้งหมด แม้ข้อมูลสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์จะไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ ธปท.มีนโยบายการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย โดยธนาคารกลาง และธปท.ที่มีการถือครองดอลลาร์ค่อนข้างมากนั้น เหตุผลหลักมาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นบัญชีที่มีไว้ซื้อขายสินค้า กู้เงิน และชำระเงิน โดยธุรกรรมส่วนใหญ่จะเป็นดอลลาร์ ทำให้เงินทุนสำรองฯ มีเงินดอลลาร์จำนวนไม่น้อย ซึ่งไม่เฉพาะธปท.เท่านั้น แต่รวมถึงธนาคารกลางแห่งอื่นด้วย

“แม้ว่าดอลลาร์จะเสื่อมค่าลง และคนหนีไปถือสกุลเงินอื่น แต่ดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินก้อนใหญ่ โดยไทยมีการถือและกระจายในหลายสกุลเงิน และไทยยังถือครองทองคำมากที่สุดเป็นอันดับที่ 17 ของโลก จึงไม่ได้หวังพึ่งพิงดอลลาร์อย่างเดียว แต่ยังมีการกระจายการลงทุนไปสินทรัพย์อื่นด้วย” นายเศรษฐพุฒิ ระบุ

เมื่อวานนี้ ธปท. รับมอบทองคำจากคณะศิษย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จำนวน 10 กิโลกรัม มูลค่าราว 34 ล้านบาท จากกิจกรรมผ้าป่าช่วยชาติ ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 14 รวมทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้ว 13,139 กิโลกรัม โดยนายเศรษฐพุฒิ ยืนยันกับลูกศิษย์หลวงตามหาบัวว่า ทองคำที่ได้รับบริจาคมาจากความศรัทธาของประชาชน ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ยืนยันยังอยู่ครบถ้วน ไม่มีการหยิบไปใช้ ตัวทองคำถูกเก็บไว้ในห้องมั่นคง ธนาคารแห่งประเทศไทย ย่านถนนพุทธมณฑล สาย 7 จ.นครปฐม และยังมีเงินตราต่างประเทศ 10,457159.63 เหรียญสหรัฐฯ

ที่สำคัญ ทองคำเหล่านี้เป็นของที่มาจากหยาดเหงื่อของประชาชน และส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากมหาเศรษฐีหรือคนมั่งมี ซึ่งประโยชน์ของการมอบทองคำนั้น เป็นการหนุนหลังธนบัตร (ค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตร) ที่ออกใช้ทุกวันนี้ ช่วยให้เกิดเสถียรภาพของราคา และทำให้มั่นใจว่า ธนบัตรที่ออกใช้มีค่า รวมทั้งประโยชน์ของความไว้วางใจ เพราะการมอบทองให้ ธปท. ถือเป็นความไว้วางใจของลูกศิษย์ ซึ่งสำหรับธนาคารกลางไม่มีอะไรที่จะสำคัญกว่าความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะชะล่าใจไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไทยขณะนี้ไม่ได้แข็งแรงเท่าที่ควรเป็น หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสูง ถ้ามองไปข้างหน้า พายุกำลังมาจากสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น แม้ยังไม่เกิดเต็มที่แต่ก็มาแน่นอน จึงต้องให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและความมั่นคง เหมือนจะออกเรือแล้วพายุกำลังมา ก็ต้องทำเรือให้แน่น อุดรุรั่วที่มี และหันมามาทำงานด้วยกันอย่างสามัคคี ซึ่งความเสียสละ และความสามัคคี จำเป็นมากสถานการณ์ปัจจุบัน

"สอดคล้องกับคำสอนของหลวงตามหาบัวฯ ที่กล่าวไว้นานแล้ว และผมคิดว่ายังมีความเหมาะสมอย่างสูงกับสถานการณ์ที่เรากำลังเจอคือ “ถ้าประเทศมีปัญหา ไปไม่รอด ทุกคนไม่ว่าเศรษฐี พ่อค้า ประชาชนก็พังกันหมด” รวมทั้งที่หลวงตากล่าวไว้ในเรื่องคลังหลวงว่า “ประเทศจะไปได้ด้วยพลังความสามัคคีและความรักชาติ อย่างอื่นไม่มีเราอย่าหวังไปพึ่งภายนอกเขา ชาติใดภาษาใดก็ตามเราอย่างไปหวังพึ่ง มีแต่คนไทยเราเท่านั้น” ซึ่งก็เป็นจริงที่ประเทศไทยเท่านั้นที่ทำได้ต่อเนื่อง บริจาคทองคำต่อเนื่องมา 28 ปี ซึ่งเคยเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ว่าการธนาคารอื่นๆฟังว่า มีเงินบริจาคมากมายขนาดนี้ เขาก็อึ้ง และท้ายที่สุด ธปท.ขอขอบคุณพระอาจารย์ และบรรดาศิษยานุศิษย์ให้ และรู้ดีว่าความไว้ใจมากับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ" นายเศรษฐพุฒิ ระบุ

อนึ่ง สำหรับการบริจาคทองคำและเงินตราต่างประเทศแก่ ธปท. เกิดขึ้นมาจากโครงการ "ผ้าป่าช่วยชาติ" โดยพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) หรือ “หลวงตามหาบัว” แห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี สะเทือนใจที่เห็นความลําบากของประชาชน ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 จึงตัดสินใจปลุกความหวังคนไทย ด้วยการจัดตั้งผ้าป่าช่วยชาติขึ้น โดยครั้งแรกมอบเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ ธปท. ในวันที่ 6 ก.ค. 2541 จํานวน 1,278,000 ดอลลาร์สหรัฐ

แต่การระดมทุนครั้งต่อมา เน้นการบริจาคทองคํา ทําให้การมอบทองคําให้ ธปท.ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2542 โดยมี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการ ธปท. ในขณะนั้นเป็นผู้รับมอบทองคํา จํานวน 83 แท่ง น้ำหนัก 1,036.738 กิโลกรัม เป็นทองคํากว่า 1 ตันตามที่หลวงตาฯ ตั้งใจไว้ พร้อมเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้หลวงตามหาบัวจะมรณภาพไปแล้วตั้งแต่ปี 2554 แต่คณะศิษย์หลวงตามหาบัวยังคงสานต่อผ้าป่าช่วยชาติและพิธีมอบทองคํายังคงดําเนินต่อจนถึงปัจจุบัน โดย ธปท.แยกสินทรัพย์ที่รับบริจาคจากโครงการนี้ไว้อย่างชัดเจนใน “บัญชีสํารองพิเศษ” ภายใต้ทุนสํารองเงินตรา โดยสินทรัพย์ในบัญชีนี้สามารถใช้เพื่อหนุนหลังธนบัตร ออกใช้ได้เฉพาะกรณีที่จําเป็นเท่านั้น










กำลังโหลดความคิดเห็น