สหประชาชาติทำได้แค่แสดงความกังวลใหญ่หลวงในวันจันทร์(28เม.ย.) ต่อรายงานข่าวที่ระบุว่าสหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเยเมน สังหารชีวิตผู้คนหลายสิบราย ณ ศูนย์กักกันผู้อพยพแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หนึ่ง ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพวกกบฏฮูตี
กองทัพสหรัฐฯเล่นงานพวกกบฏฮูตีที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ด้วยการโจมตีแทบทุกวัน มาตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ในปฏิบัติการที่มีชื่อว่า "Rough Rider" ในความพยายามหาทางหยุดยั้งนักรบกลุ่มนี้จากการโจมตีเรือต่างๆในทะเลแดงและอ่าวเอเดน
สื่อมวลชนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮูตี ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีล่าสุด ในเมืองซาดา ป้อมปราการของกลุ่ม ได้ปลิดชีพผู้คนไปอย่างน้อย 68 ราย ทั้งหมดเป็นชาวแอฟริกัน ที่ถูกควบคุมตัว ณ ศูนย์กักกันคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่สหรัฐฯบอกแต่เพียงว่าทางกองทัพกำลังตรวจสอบรายงานดังกล่าว
สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ บอกว่ายูเอ็นรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อรายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตี และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องพลเรือน "เราเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ความสูญเสียอันน่าเศร้า ที่เชื่อว่ามีผู้อพยพจำนวนมากต้องมาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ" เขากล่าว ทว่าไม่ได้พาดพิงเอ่ยชื่อสหรัฐฯ แต่อย่างใด
เขาบอกว่าจากข้อมูลเบื้องต้น มีผู้อพยพเสียชีวิต 68 รายและได้รับบาดเจ็บอีก 48 คน ในเหตุโจมตีเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้สำนักข่าวเอเอฟพีไม่ยืนยันตัวเลขดังกล่าว หรือคำกล่าวอ้างว่าการโจมตีไปโดนศูนย์กักกันผู้อพยพ
เจ้าหน้าที่กลาโหมรายหนึ่งของสหรัฐฯ ระบุว่าทางกองทัพ "ทราบเรื่องเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างพลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ อันเนื่องจากปฏิบัติการโจมตีของอเมริกาในเยเมนแล้ว และเราจริงจังอย่างมากกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว เรากำลังดำเนินการความเสียหายจากการสู้รบและตรวจสอบคำกล่าวอ้างนี้"
ในวันอาทิตย์(27เม.ย.) สหรัฐฯบอกว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆมากกว่า 800 เป้าหมายในเยเมน นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม ปลิดชีพไปหลายร้อยราย ในนั้นรวมถึงพวกผู้นำฮูตี แต่จากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สื่อมวลชนของฮูตี รายงานว่าการโจมตีล่าสุดของกองกำลังอเมริกา เป็นการถล่มศูนย์กักกันผู้อพยพ
สำนักข่าวอัล-มาซิราห์ ของฮูตี เผยแพร่ภาพศพติดอยู่ใต้ซากหักพัง และทีมกู้ภัยกำลังหาทางช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ตามหลังการโจมตี คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเรียกร้องทุกฝ่ายใช้ทุกมาตรการป้องกันไว้ก่อนเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับพลเรือน "มันแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่า ในขณะที่ผู้คนถูกกักกันตัวและไม่มีที่หลบหนี พวกเขาต้องมาติดแหง็กอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ" คริสติน ซิโพลลา หัวหน้าคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศในเยเมน กล่าว
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หน่วยงานของสหประชาชาติ เผยว่ากำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้มากกว่านี้
ในแต่ละปี พวกผู้อพยพหลายหมื่นคนจะฟันฝ่าเส้นทางในทะเลแดงที่อันตรายมาจากจะงอยแอฟริกา เพื่อหลบหนีความขัดแย้ง ภัยพิบัติทางธรรมชาติและความยากจนข้นแค้น ล่องเรือมุ่งหน้าสู่อ่าวอาหรับที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน
ผู้อพยพจำนวนมากหวังได้รับการว่าจ้างในฐานะแรงงานหรือคนรับใช้ในซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆในอ่าวอาหรับ แม้ต้องเผชิญเส้นทางที่เสี่ยงภัยผ่านเยเมน ดินแดนที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ
ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ เป็นตอบโต้พวกฮูตีที่ล็อคเป้าเล่นงานเรืออิสราเอลและเรือตะวันตกในทะเลแดง ในสิ่งที่พวกกบฏกลุ่มนี้ให้คำจำกัดความว่าเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ ทั้งนี้ปฏิบัติการโจมตีเรือของฮูตี มีขึ้นไม่นานหลังจาก พวกฮามาสจู่โจมเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบในเดือนตุลาคม 2023 สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย กระตุ้นให้อิสราเอล แก้แค้นด้วยการถล่มและรุกรานฉนวนกาซา ปลิดชีพชาวบ้านไปหลายหมื่นคน
การโจมตีก่อความเสียหายแก่เส้นทางการเดินเรือสำคัญ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าคิดเป็นสัดส่วน 12% ของโลก บีบให้บริษัทมากมายต้องอ้อมไปแถวๆ แหลมทางใต้ของแอฟริกา ซึ่งทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในถ้อยแถลงที่ให้รายละเอียดมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในวันที่ 15 มีนาคม กองบัญชาการสหรัฐฯที่รับผิดชอบตะวันออกกลาง เปิดเผยว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆมากกว่า 800 เป้าหมายในเยเมน สังหารพวกนักรบฮูตีหลายร้อยรายและแกนนำฮูตีไปหลายคน
แม้มีปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว แต่พวกฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนและทำสงครามกับพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติมาตั้งแต่ปี 2015 ยังคงเดินหน้าโจมตีเรือของทั้งสหรัฐฯและอิสราเอล
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันจันทร์(26เม.ย.) ฮูตี เผยว่าพวกเขาตอบโต้การโจมตีล่าสุดและเหตุสังหารหมู่พลเรือน ด้วยการเล็งเป้าเล่นงานเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส แฮร์รี เอส.ทรูแมน ด้วยขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธแบบทิ้งตัวหลายลูก และโดรนอีกหลายลำ
อิหร่าน ซึ่งสนับสนุนพวกฮูตี ประณามการโจมตีของสหรัฐฯ โดยโฆษกระทรวงการต่างประเทศ เรียกการโจมตีเล็งเป้าเล่นงานพลเรือนครั้งนี้ว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม"
สหรัฐฯเริ่มต้นทำการโจมตีเล่นงานพวกฮูตีในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ได้ยกระดับโจมตีหนักหน่วงขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
(ที่มา:เอเอฟพี)