xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว! “ป๋าโจ๊กวัดเทพ” คนขับรถพุ่งชนและทำร้ายเพื่อนร่วมงาน อ้างมีปัญหธุรกิจ ตร.แจ้ง 6 ข้อหาหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รวบแล้ว “ป๋าโจ๊กวัดเทพ” คนก่อเหตุขับรถพุ่งชนและทำร้ายเพื่อนร่วมงาน พบเสพยาไอซ์ก่อนลงมือ อ้างมีปัญหาเรื่องทำธุรกิจ ตร.แจ้ง 6 ข้อหาหนัก พร้อมยึดรถที่ใช้ในการก่อเหตุ

จากการณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 เม.ย.2568 ได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ไล่ชนกันกลางถนนและทำร้ายร่างกายกันในพื้นที่ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตนั้น เมื่อเวลา 14.57 น. ริมถนนหน้าโรงแรมซีเบดแกรนด์ ถ.เจ้าฟ้าสวนหลวง หมู่ 2 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต และคนก่อเหตุทราบชื่อคือ นายณัฐพล หรือ ป๋าโจ๊กวัดเทพ สว่างแจ้ง อายุ 34 ปี ส่วนคนที่ถูกทำร้ายคือ นายฉัตรชัย แซ่คู อายุ 46 ปี หลังเกิดเหตุคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ


สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.วัชรากร สุวรรณ รองสว.(สอบสวน) สภ.วิชิต ได้ติดตามตัว นายฉัตรชัย แซ่คู อายุ 46 ปี ผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมนำรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ขจ 1390 ภูเก็ต มาให้ตรวจสอบที่สภ.วิชิต ต่อมา ชุดสืบสวนสภ.วิชิตได้ติดตามจับกุม นายณัฐพล หรือ ป๋าโจ๊กวัดเทพ สว่างแจ้ง อายุ 34 ปี ได้ที่บริเวณป่าต้นสนในพื้นที่ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อเอ็มจี สีขาว และอาวุธมีด มาสอบสวนที่ห้องสืบสวนสภ.วิชิต

พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ชุดสืบสวนและสายตรวจ สภ.วิชิต ได้ลงพื้นที่จนสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ จากการซักถามเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการทำงานร่วมกับผู้เสียหาย และจากการตรวจสารเสพติด พบว่ามีผลเป็นบวกสอบถามให้การว่า ได้เสพยาไอซ์มาก่อนที่จะก่อเหตุขับรถไล่ตามและพุ่งชนรถของผู้เสียหาย ก่อนจะลงไปทุบรถและทำร้ายร่างกายของอีกฝ่าย พร้อมทั้งไลฟ์สดไปด้วย เป็นพฤติการณ์ที่รุนแรงมาก และไม่ควรเป็นแบบอย่าง


“สำหรับมูลเหตุนั้น ทางผู้เสียหายบอกว่า เกิดจากปัญหาการทำงานด้วยกัน แต่ต้องสอบข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมอีกครั้งว่า เท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน แต่จากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฎในคลิปที่มีการไลฟ์สดของผู้ก่อเหตุเองส่วนหนึ่ง และคลิปที่พลเมืองดีถ่ายไว้ พบว่า เป็นการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรง จึงอยากจะฝากเตือนว่า ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย ดังนั้นสิ่งที่เขาทำก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย และโทษค่อนข้างรุนแรงตามพฤติกรรมของการก่อเหตุ โดยเฉพาะการไลฟ์สดไปด้วย แสดงให้เห็นถึงเจตนา ในส่วนนี้พนักงานสอบสวนจะใส่ไว้ในสำนวนด้วย และจะมีการข้อกล่าว 6 ข้อ” พ.ต.อ.สมศักดิ์กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตามได้มีแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ นั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น อันเป็นการกระทำโดยมีอาวุธ, พาอาวุธ (ดาบ) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือ โดยไม่มีเหตุสมควร, ทำให้เสียทรัพย์, ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น , เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย”


ขณะที่ นางอุมาพร แก้วมาก ภรรยาผู้เสียหาย กล่าวว่า ทั้งสองคนทำงานรับเหมาก่อสร้างด้วยกัน และก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า ทั้งคู่ยังโทรศัพท์คุยเรื่องงานกันอยู่ โดยผู้ก่อเหตุขอให้แฟนตนไปดูไซต์งานที่ป่าตอง แต่เขาปฎิเสธว่าจะไปให้ภายหลัง เนื่องจากจะต้องไปพบคู่กรณีที่สถานีตำรวจ เพราะก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุทำให้แฟนของตนขาหัก 2 ท่อน และยังไม่สามารถทำงานได้ รอให้อาการดีกกว่านี้ก็จะไปงานตามปกติ แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นอีกฝ่ายถึงได้ขับรถไล่ตามแฟนของตนและลงไปทำร้ายร่างกายอีก ส่วนที่บอกว่า แฟนตนไม่ยอมจ่ายเงินให้กับผู้ก่อเหตุนั้น คิดว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยโอนให้อยู่ รวมถึงกรณ๊ที่พ่อของเขาป่วยอยู่ที่ จ.ราชบุรี ทางแฟนของตนก็เคยบอกไปว่า ให้ไปเยี่ยมพ่อได้เลยไม่ต้องกังวลทางนี้ จะรับผิดชอบเองแต่ขอเวลาให้ขาหายเจ็บก่อน ส่วนปัญหาจริงๆ นั้นตนก็ไม่ทราบ
กำลังโหลดความคิดเห็น