ลำพูน - ชาวโคนมแม่ทา จำใจเททิ้งน้ำนมดิบบริษัทเอกชนยุติรับซื้อ ทำให้ไม่มีที่ชาย ผู้บริโภคหันกินนมผงต่างปะเทศ -มติ ครม.ห้ามขายนมข้ามเขต สหกรณ์ฯ ประกาศแจกฟรีหลังจากปิดรับซื้อ 29 เมษายนนี้
นายเกียรติศักดิ์ มูลพนัสสัก อายุ 39 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ชาวบ้านทาทุ่งไผ่ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน เปิดเผยว่า ตนเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 1 ใน 32 รายของสหกรณ์โคนมแม่ทา ซึ่งตนได้ลงทุนเลี้ยงโคนมไปหลายล้านบาท เลี้ยงมาไม่ต่ำกว่า 7 ปี ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากพ่อแม่
ซึ่งช่วงแรกขายน้ำนมดิบให้สหกรณ์ฯ ราคากิโลกรัมละ 22 บาท มานานหลายปี แต่มาระยะหลัง บริษัทเอกชน ที่ จ.สระบุรี ที่ทำสัญญาหรือ MOU รับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์โคนมแม่ทา ได้แจ้งยุติรับซื้อเนื่องจากมติ ครม.ให้มีการนำนมผงเข้ามาจำหน่ายและการห้ามขายนมข้ามเขต ทำให้บริษัทดังกล่าวไม่สามารถรับซื้อน้ำนมดิบของ
สหกรณ์โคแม่ทาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสหกรณ์โคนมแม่ทา ได้แบกภาระรัซื้อน้ำนมจากลูกสมาชิกวันล่ะ 11.7 ตัน คิดเป็นเงินประมาณ 3 แสนบาทต่อวัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้หรือจัดหาผู้ซื้อน้ำนมดิบรายใหม่มาช่วยรับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์ฯ ต่อจากผู้รับซื้อรายเดิมที่ยกเลิกออเดอร์ไปก่อนหน้านี้
และเมื่อไม่สามารถระบายน้ำนมดิบได้และเกิดเน่าเสียต้องเททิ้ง เพราะน้ำนมดิบ ที่ไม่ได้เข้าห้องเย็นอยู่ได้เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทางสหกรณ์ฯ จะปิดรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ในวันที่ 29 เมษายน นี้ ในขณะนี้ทางสหกรณ์โคนมแม่ทา ได้แจกน้ำนมดิบฟรี โดยผู้สนใจนำถังมาใส่ได้ ซึ่งน้ำนมดิบที่แจกให้ไม่สามารถนำไปบริโภคได้ทำปุ๋ยอย่างเดียว
ขณะที่นางสาวศุภิสรา กันธิมาพงษ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์นมฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สหกรร์มีสมาชิกทั้งหมด 32 ราย มีวัวนมอยู่ในการเลี้ยงดูประมาณ 2 พันตัว หลังจากนี้จะทำให้สมาชิกสหกรณ์ทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องรับภาระค่าเลี่ยงดูวัว แต่ไม่มีที่รับซื้อน้ำนมดิบ
แหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางบริษัทเอกชนไม่รับซื้อน้ำนมดิบ เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาใช้นมผง ที่นำเข้าจากต่างประเทศแทน ประกอบกับอยู่ในช่วงปิดเทอม บริษัทผู้ผลิตนมโรงเรียนได้ลดกาผลิตลง จึงส่งผลให้น้ำนมดิบล้นตลาดดังกล่าว