รอยเตอร์ – บริษัทโลจิสติกชื่อดังของเยอรมัน DHL Express แถลงล่าสุด ประกาศทั่วโลกตั้งแต่วันพรุ่งนี้(21 เม.ย)จะหยุดการขนส่งพัสดุ B2C มูลค่าสูงกว่า 800 ดอลลาร์ไปอเมริกา อ้างมาตรการศุลกากรสหรัฐฯใหม่ของทรัมป์ทำเหตุ ตามอย่างไปรษณีย์ฮ่องกงสัปดาห์ที่แล้วสั่งยุติส่งพัสดุเข้าอเมริกาทั้งทางทะเลและทางอากาศ
รอยเตอร์รายงานวันนี้(20 เม.ย)ว่า แถลงการณ์ถูกโพสต์บนเว็บไซต์ทางการของ DHL Express ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทไปรษณีย์เยอรมัน Deutsche Post แถลงการณ์ไปทั่วโลกว่า ทางบริษัทโลจิสติกชื่อดังจะหยุดส่งพัสดุมูลค่าสูงกว่า 800 ดอลลาร์เข้าสหรัฐฯชั่วคราว
รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นแถลงการณ์ที่คาดว่าจะออกมาในวันเสาร์(19)
DHL แสดงเหตุผลกล่าวโทษมาตรการใหม่ทางภาษีศุลการกรสหรัฐฯที่แก้ไขให้ต้องมีการแสดงรายการพัสดุทั้งหมดที่มีมูลค่าเกิน 800 ดอลลาร์ ลดจากของเดิมที่กำหนดให้ขั้นต่ำอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในวันที่ 5 เม.ยที่ผ่านมา
เป็นการหยุดส่งพัสดุสำหรับบุคคลทั่วไปในสหรัฐฯที่จะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 เม.ย
แต่ทว่า DHL ชี้แจงว่า สำหรับพัสดุประเภทธุรกิจต่อธุรกิจจะยังคงให้บริการส่งเข้าสหรัฐฯตามปกติแต่ทางบริษัทโลจิสติกชื่อดังชี้ว่า อาจต้องเผชิญกับความล่าช้า
นอกจากนี้สำหรับการพัสดุมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์เข้าสหรัฐฯสำหรับบุคคลธรรมดาหรือธุรกิจจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
DHL แถลงผ่านเว็บไซต์ว่า มาตรการที่ประกาศออกมาเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น
ทั้งนี้ DHL ได้ออกแถลงการณ์ต่อรอยเตอร์สัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทจะยังคงให้บริการส่งพัสดุจากฮ่องกงไปยังสหรัฐฯที่เป็นไปตามกฎและธรรมเนียมทางศุลกากรและจะทำงานร่วมกับ “ลูกค้าของเรา” เพื่อช่วยเหลือให้คนเหล่านั้นเข้าใจและสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 พ.ค
รอยเตอร์ชี้ว่า เกิดขึ้นหลังไปรษณีย์ฮ่องกงเปิดแถลงสัปดาห์ที่แล้วว่า ทางสำนักงานสั่งหยุดให้บริการการส่งพัสดุทางทะเลไปสหรัฐฯด้วยเหตุผลที่ชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯใช้มาตรการภาษีศุลกากรเพื่อบุลลีอย่างไม่เป็นธรรม โดยฮ่องกงที่เป็นหนึ่งในดินแดนของจีนถูกจัดระดับอัตราภาษีเดียวกันกับจีน