xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภาค 5 นำแถลงจับกุมเครือข่ายค้าอาวุธสงครามลักลอบส่งชนกลุ่มน้อยชายแดนเพื่อนบ้าน-เร่งขยายผลหาที่มา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำแถลงผลจับกุมเครือข่ายค้าอาวุธสงครามลักลอบนำส่งชนกลุ่มน้อยนำไปสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน รวบ 4 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางจำนวนมากและเงินสด 2 ล้านบาท เตรียมขยายผลลากผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี และหาแหล่งที่มาของอาวุธ แต่ยืนยันไม่ใช่ของราชการไทย


วันนี้ (24 เม.ย. 68) ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำแถลงผลการจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามเพื่อส่งให้ชนกลุ่มน้อยในประเทศเพื่อนบ้านผ่านชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ ตั้งจุดตรวจบนถนนคันคลองชลประทาน ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สกัดจับนายไกรเพชร บูชาเลิศไกวัล อายุ 28 ปี และนายกีรติภพ โททำ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมรถยนต์กระบะซุกซ่อนอาวุธสงครามจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนเล็กยาว ทรง AR ขนาด 5.56 มม. ไม่ปรากฏเลข/เครื่องหมายประจำปืน พร้อมซองกระสุนขนาด 5.56 มม. ขนาดบรรจุ 30 นัด จำนวน 10 ชุด และเครื่องยิงลูกระเบิด ความกว้างปากลำกล้อง 40 มม. จำนวน 14 กระบอก

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การสารภาพว่ารับจ้างขนอาวุธสงครามจากบริเวณด้านหลังห้างค้าปลีกชื่อดังย่านตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปส่งให้ชนกลุ่มน้อย (กะเหรี่ยง KNU) บริเวณชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน และรับสารภาพว่าลักลอบขนอาวุธเป็นครั้งที่สามแล้ว โดยหลังนำตัวไปสืบสวนขยายผลพบมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม 2 คน คือ นายสมศักดิ์ คำยอด อายุ 31 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทำหน้าที่ส่งมอบอาวุธสงคราม และสกัดจับ นายเตชพล เพ็งเล็ง อายุ 35 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ได้บนถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ขณะหลบหนี โดยยึดเงินสด 2 ล้านบาท พร้อมอาวุธปืนพกสั้น, เสื้อเกราะกันกระสุน, วิทยุสื่อสาร และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ซุกซ่อนในรถ


ทั้งนี้ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า อาวุธสงครามที่จับได้จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธสงครามที่เตรียมนำไปส่งมอบให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ชายแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำไปใช้ในการสู้รบในพื้นที่ประเทศเมียนมา โดยปืนเอ็ม 16 มีการนำเข้ามาจากฝั่งของไทใหญ่ในประเทศเมียนมาแล้วเอามาประกอบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการส่งมอบให้กลุ่มผู้ต้องหาจ้างขนเที่ยวละ 10,000 บาทเพื่อนำไปส่งให้ผู้รับที่บริเวณชายแดนบ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนปืนเอ็ม 79 มีการจัดซื้อมาจากกรุงเทพมหานคร เชื่อว่ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก ส่วนเอ็ม 16 นั้นเป็นลักษณะประกอบเป็นกลุ่มไทใหญ่ซึ่งอยู่ในภาคเหนือที่ทำการค้าอาวุธโดยการฉวยโอกาสทำสินค้าออกขายในการสู้รบของประเทศเมียนมากับชนกลุ่มน้อยพวกนี้ก็ได้โอกาสให้การจัดหาอาวุธเพื่อนำไปส่งให้ชนกลุ่มน้อยกองพลน้อยที่ 5 กะเหรี่ยงเคเอ็นยู

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามนี้มาดำเนินคดีต่อไปซึ่งเชื่อว่าจะมีอีกจำนวนมาก ซึ่งในกลุ่มนี้มี 6 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย อีก 2 รายเป็นชาวไทใหญ่ซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ตำรวจทราบตัวหมดแล้ว โดยเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ (อาวุธปืนและเครื่องยิงลูกระเบิด) โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ร่วมกันค้า หรือจำหน่ายอาวุธปืนฯ นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55








กำลังโหลดความคิดเห็น