รอง ผบช.น.ประชุมคดีตึก สตง.ถล่ม ยืนยันคณะพนักงานสอบสวนเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา พร้อมเก็บพยานหลักฐานเพิ่มต่อเนื่อง เผยขณะนี้ สตง.ยังส่งเอกสารไม่ครบเกี่ยวกับวัสดุและการตรวจรับ 22 งวดงาน รวมถึงสัญญาแก้ไขแบบ ส่วนวิศวกรวัย 85 ปีที่มีลายเซ็นเป็นผู้ออกแบบ เข้าให้ปากคำแล้วเมื่อวาน ยันเป็นแค่ที่ปรึกษา
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ สน.บางซื่อ พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เหตุแผ่นดินไหวทำให้อาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม. ทรุดตัวถล่มลงมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว
พล.ต.ท.นพศิลป์ เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ขณะนี้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ สตง.และบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 56 ราย ประจักษ์พยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 51 ราย ผู้บาดเจ็บ 7 ราย ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด 35 ราย โดยได้เร่งรัดสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และมีการส่งพยานหลักฐาน เหล็ก ปูน ไปทำการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 1 ชุด ตามลำดับที่เก็บได้ และยังมีการเก็ยพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ส่วนหลักฐานที่ส่งให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบไปก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล
โดยยืนยันว่า ทางคณะพนักงานสอบสวนเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ทางตำรวจได้พยายามเร่งรัดไปยังหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบ ทั้งสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานฯ ซึ่งได้ส่งแบบแปลนไปให้ทำการตรวจสอบ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผล รวมถึงรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของรัฐบาล
นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สตง.ก็ยังให้เอกสารมาไม่ครบ ทั้งเอกสารที่เกี่ยวกับวัสดุ และเอกสารที่เกี่ยวกับ 22 งวดงานในการตรวจรับ ยังส่งมาไม่ครบถ้วน รวมถึงสัญญาที่มีการแก้ไขแบบที่ออกไปเป็นแบบแก้ไขสัญญาที่มีการแก้ไขก็ยังไม่ได้รับมาเช่นกัน ซึ่งทาง สตง.อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารทั้งหมดอยู่
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเร่งรัดไปที่ สตง.ให้ส่งข้อมูลดังกล่าวมาให้แล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังรอผลส่วนนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เจ้าหน้าที่ สตง.ได้เข้ามาให้ปากคำ หลังแจ้งความร้องทุกข์กับ 3 บริษัทผู้ควบคุมงาน กรณีเรื่องของการปลอมลายเซ็น และจะนำเอกสารที่เหลือเข้ามาช่วงบ่ายโดยเฉพาะเอกสารที่เป็นปัญหาที่ยังขาดอยู่ ซึ่งเป็นเอกสารที่มีการลงลายมือชื่อของวิศวกร ที่คาดว่าจะถูกปลอมลายเซ็นส่วนการตรวจสอบรายชื่อวิศวกร ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อวิศวกรทุกคนว่า เป็นวิศวกรตัวจริงหรือไม่
ส่วนกรณี นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี ที่ปรากฎลายเซ็นเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบตึก สตง.นั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ นายพิมล ได้เข้ามาให้ปากคำไปแล้ว โดยให้การอ้างว่าเป็นแค่ปรึกษา และได้รับค่าจ้างจากการให้คำปรึกษาเพียงครั้งเดียว จำนวนเงิน 150,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอีก โดยเป็นการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ และได้เซ็นในฐานะที่ปรึกษา ส่วนการดำเนินการส่วนอื่นเป็นของวิศวกรเป็นหลัก
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยอีกว่า พยานหลักฐานในขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้เร่งรัดผลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำการตรวจสอบ หากได้ผลการตรวจสอบส่วนนี้กลับมา โดยเร็วก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิดในครั้งนี้ได้ พร้อมยืนยันว่า หากมีพยานหลักฐานถึงใคร หรือบริษัทใดจะดำเนินคดีทั้งหมด
ส่วนจะออกหมายจับได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการเร่งรัด เพื่อให้ความจริงชัดเจน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศบ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลุ่มโยธาธิการและผังเมืองรวมไปถึงคณะพนักงานตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รัฐบาลตั้งขึ้น โดยจะต้องรอผลจากทุกมิติส่งเข้ามาที่พนักงานสอบสวนก่อน
ส่วนจะมีใครแทรกแซงการทำคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนสืบสวน เพื่อทำงานในเรื่องนี้ โดยทำงานอย่างจริงจังตรงไปตรงมา ว่าไปตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งตึกมีการถล่มเกิดขึ้นจริงและมีผู้เสียชีวิต ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ และให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการรวบรวมพยานหลักฐาน