“ขับช้าหน่อย เพื่อน...พ่อคุณไม่ใช่หลี่ กัง”
ก่อนอื่นขอเอาคำเตือนที่โดนใจในป้ายจราจรจีนที่ล้อเลียนเสียดสีเหตุการณ์ลูกชายผู้มีอิทธิพลใหญ่ขับรถหรูชนคนตายแล้วทำกร่างท้าทายสังคม มาเปิดเรื่องราวของลูกคนรวยรายนี้ และด้วยเป็นเรื่องเก่าผ่านมานับสิบปี จึงไม่ขอนำภาพเหตุการณ์จริงมาลงเผยแพร่อีก
ย้อนรอยเหตุการณ์ “พ่อข้า คือ หลี่กัง”
ในจีน มีคำพูดติดปากที่ฮิตระเบิดระเบ้อเมื่อสิบปว่าปีที่แล้ว คือ “พ่อข้า คือหลี่กัง” “我爸是李刚” เป็นประโยคที่กลายเป็นมีม (meme) เรียกพฤติกรรมยะโสโอหังอ้างอำนาจบาตรใหญ่ของบุพการีเครือญาติมาทำกร่างรังแกคนที่สถานภาพในสังคมอ่อนด้อยกว่า
ประโยคฯนี้มีที่มาจากเหตุการณ์ หนุ่มจีน นาย หลี่ ฉี่หมิง วัย 22 ปี ขับรถยนต์หรู ฟ็อลคส์วาเกิน (FWE420) ชนนักศึกษาหญิงสองคนกระเด็นไปหลายเมตร นักศึกษาที่ถูกชนคนหนึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนอีกคนขาหัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเหอเป่ย เมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ปี 2553
หลังขับรถชนคนแล้ว หลี่ ฉี่หมิง ซึ่งขณะนั้นเมาเหล้าด้วย ไม่แม้แต่เหลียวมามองผู้ถูกชนจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เขายังขับรถต่อไปเพื่อไปส่งแฟนที่หอพัก เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยเข้ามาจับกุมตัวหลี่ฉี่หมิง เขาตระโกนไล่ยาม และพูดท้าทายว่า “มึงกล้า... ก็ไปฟ้องได้เลย "พ่อข้า... คือหลี่ กัง"”
ประโยค "พ่อข้า... คือหลี่ กัง"” เหมือนสะเก็ดไฟที่กระเด็นใส่น้ำมันทำให้ไฟแห่งความโกรธในสังคมลุกโชนขึ้นมา บรรดาชาวเน็ตค้นข้อมูล “หลี่ กัง” และพบว่าเขาคือ รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ (คือหน่วยงานตำรวจ) ประจำท้องถิ่นในขณะนั้น
นับจากนั้นมา ประโยค "พ่อข้า คือ หลี่ กัง" ก็ฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ ปลุกระดมประชาชนที่คับแค้นกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงรังแกประชาชน ทำผิดแล้วไม่รับผิดชอบ ออกมาโต้ตอบอย่างรุนแรงและท่วมท้นราวกับทำนบกั้นน้ำแตกก็ไม่ปาน
“พ่อข้าคือ หลี่ กัง” กลายเป็น มีม สัญลักษณ์ “พฤติกรรมอวดเบ่งใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกคน” บนโลกอินเทอร์เน็ต ถึงกับมีเว็บไซต์หนึ่งจัดการประกวดใช้ประโยค “พ่อข้าคือ หลี่ กัง” แต่งโคลงกลอน นอกจากนี้ยังมีการแต่งเนื้อเพลงเสียดสีอิทธิพลคับฟ้าของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนมีการจัดการประกวดการแต่งประโยคโดยให้มีคำว่า “พ่อข้าคือ หลี่ กัง” ทั้งหมดนี้เป็นปรากฏการณ์ประท้วงขนานใหญ่เพื่อโต้ตอบพฤติกรรมโอหังของพวกอ้างอิทธิพลใหญ่มาทำกร่าง และรังแกประชาชน
ในที่สุด "หลี่กัง" พ่อของนาย หลี่ ฉี่หมิง ต้องออกมาแถลงในรายการโทรทัศน์หนึ่ง กล่าวขอโทษทั้งน้ำตาต่อกรณีลูกขายขับรถขนคนตาย และโค้งคำนับต่อหน้ากล้องนานครึ่งนาที…
ครอบครัวของ หลี่ กัง ได้จ่ายค่าชดเชยให้แก่ครอบครัวของเฉิน เซียวเฟิง ผู้เสียชีวิต 460,000 หยวน (หรือกว่า 2 ล้านบาท) และ จาง จิงจิง นักศึกษาหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ 91,000 หยวน (หรือราว 400,000บาท) สามวันต่อมา คือในวันที่ 30 ม.ค. 2554 ศาลได้พิพากษาจำคุกหลี่ ฉีหมิง 6 ปี ในความผิดขับรถชนคนตาย และบาดเจ็บ
แต่สื่อรายงานว่า ในวันที่ 28 เดือนม.ค.ปี 2558 นาย หลี่ฉี่หมิง ประพฤติตัวดีระหว่างรับโทษจำคุก ศาลจึงตัดสินลดโทษให้ออกจากคุกก่อนกำหนด
เหตุการณ์ หลี่ ฉี่หมิง ขับรถหรูชนคนตาย ถือเป็นการตอกย้ำบาดแผลใหญ่ของยุคชั่วรุ่นคน “รวยรุ่นสอง” (富二代) หรือเรียกง่ายๆ คือ “ลูกคนรวย หรือลูกเศรษฐี” นั่นเอง ในบริบทสังคมของจีน “กลุ่มรวยรุ่นสอง” นี้คือ บรรดาลูกๆของกลุ่มคนที่มั่งคั่งขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจในปลายทศวรรษที่1970 ที่ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว วลี “รวยรุ่นสอง” มักถูกใช้ในทางเสื่อมเสีย โดยเฉพาะการใช้ชีวิตตามอำเภอใจ และบ้าวัตถุ
สำหรับกรณีของ หลี่ ฉี่หมิง นี้ น่าอนาถใจที่สุด พฤติกรรมไร้มนุษยธรรม กร่าง ท้าทาย ทำให้ชื่อพ่อของตนเสื่อมเสีย เน่าเหม็นได้ขนาดนี้ … เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล และอับอายไปชั่วชีวิต .1