ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยในวันอังคาร(22เม.ย.) ว่าเขาจะลดเพดานภาษีที่เรียกเก็บสินค้านำเข้าจากจีนลงอย่างมาก จากระดับสูงลิ่วที่ไม่เคยมีมาก่อน 145% และ "จะไม่เล่นไม้แข็ง" ในศึกรีดภาษี พร้อมกับยอมรับว่าสงครามการค้าในปัจจุบันระหว่าง 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ไม่อาจปล่อยให้ยืดเยื้อได้
ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นหลังจาก สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บอกกับที่ประชุมลับกับบรรดานายธนาคารเพื่อการลงทุน ว่าการเจรจาต่อรองกับจีน "จะยากลำบาก" แต่เขาเชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้วความคึงเครียดทางการค้าระหว่งอเมริกากับจีนจะผ่อนคลายลง
เบสเซนต์ อกว่ามาตรการรีดภาษีมโหฬารที่ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกกำหนดเล่นงานกันและกัน เทียบเท่ากับเป็นการปิดล้อมทางการค้า แต่เขาคาดหมายว่าสถานการณ์จะผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามเขาเน้นย้ำถึงความต้องการการค้าที่ยุติธรรมและบอกว่าจีนจำเป็นต้องคืนสมดุลแก่เศรษฐกิจของพวกเขา
"ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า โอ้ ผมกำลังเล่นไม้แข็งกับจีน" ทรัมป์ กล่าวในก้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในวันอัคร(22เม.ย.) "เรากำลังไปได้ดี สถานการณ์กับพวกเขากำลังเป็นไปได้ดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นต้องทำข้อตลง เพราะว่ามิเช่นนั้นแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถทำการค้าขายในสหรัฐฯ เราต้องการให้พวกเขามีส่วนร่วม แต่พวกเขาจำเป็นต้องและประเทศอื่นๆจำเป็นต้องทำข้อตกลง และถ้าพวกเขาไม่ทำข้อตกลง เราจะเป็นฝ่ายกำหนดข้อตกลงเอง"
ทรัมป์ ยอมรับว่าระดับมาตรการรีดภาษี 145% ที่กำหนดเล่นงานสินค้านำาจากจีนนั้น "สูงมาก" และเทียบเท่ากับเป็นการ "ปิดล้อมทางการค้า" ดังนั้นตัวเลขในขั้นท้ายสุดที่จะกำหนด จะต่ำกว่านั้นมาก
"มันคงไม่เฉียดใกล้ตัวเลขระดับสูงนั้น" ทรัมป์ยอมรับ "มันลดต่ำลงย่างมาก แต่จะไม่เป็นศูนย์ มันเคยเป็นศูนย์ เราแค่ทำลายจีน ฐานหลอกลวงเรา มันจะไม่ใกล้เคียงตัวเลขระดับ 145% ถ้าเราไม่ทำข้อตกลง เราจะกำหนดตัวเลข"
ทรัมป์ บอกว่าข้อตกลงจะพินิจพิเคราะห์โดยตัวเขาเอง, เบสเซนต์ และ โฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ ผู้ซึ่งในเดือนนี้มอบคำปรึกษาแก่ประธานาธิบดี ให้ระงับมาตรการที่เรียกว่า "การรีดภาษีตอบโต้" เป็นเวลา 90 วัน เหลือเพียงเพดานภาษีพื้นฐาน 1% เพื่อเปิดทางสำหรับการเจรจา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้บ่งชี้ถึงกรอบเวลาหรือเส้นตาย เกี่ยวกับการเจรจาปลดมาตรการรีดภาษี
นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังกลับลำคำขู่ก่อนหน้านี้ ที่พูดเป็นนัยว่าจะปลด เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ออกจากตำแหน่ง โดย ทรัมป์ บอกว่าเขาไม่ได้กำลังพิจารณาปลด พาวเวลล์ หรือ "ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ" แม้ไม่กี่วันก่อน ทรัมป์ เพิ่งส่งเสียงวิพากษวิจารณ์ พาวเวลล์ อย่างหนัก ต่อกรณีดำเนินการล่าช้าเกินไปในการปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
"ผมไม่มีความตั้งใจไล่เขาออก ผมอยากเห็นเขากระตือรือร้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในแง่ของความคิดในการปรับลดดอกเบี้ย นี่คือช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ถ้าเขาไม่ทำ มันจะถึงจุดจบหรือไม่? ไม่ ไม่ใช่"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ บอกว่าเขาไม่พอใจ พาวเวลล์ และบอกว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐฯรายนี้สมควรถูกปลดจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
(ที่มา:เอพี/รอยเตอร์)