xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก "เนตร นาคสุข" 3 ปี-อดีตอัยการ 2 ปี ช่วยเหลือ "บอส อยู่วิทยา" สั่งไม่ฟ้อง "สมยศ" และพวกรอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก "เนตร นาคสุข" อดีตรองอัยการสูงสุด 3 ปี และอดีตพนักงานอัยการอาวุโส 2 ปี กรณีช่วยเหลือคดี "บอส อยู่วิทยา" เปลี่ยนความเร็วรถยนต์และสั่งไม่ฟ้องเพื่อให้พ้นผิด ส่วน "สมยศ" อดีต ผบ.ตร. และพวก ศาลยกฟ้อง

วันนี้ (22 เม.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด (จำเลยที่ 8) เป็นเวลา 3 ปี และนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตพนักงานอัยการอาวุโส (จำเลยที่ 6) เป็นเวลา 2 ปี ในคดีร่วมกันกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ผู้ต้องหาขับรถยนต์ปอร์เช่ชนท้าย ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ บนถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 49 เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555 เพื่อให้นายวรยุทธพ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง

ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 6 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขณะนั้นดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเป็นคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำเลยที่ 1, พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง จำเลยที่ 2, พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ทองหล่อ จำเลยที่ 3, นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ คนใกล้ชิด พล.ต.อ.สมยศ จำเลยที่ 4, นายธนิต บัวเขียว ทนายความบอส อยู่วิทยา จำเลยที่ 5, และ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักฟิสิกส์ อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จำเลยที่ 7 พิพากษายกฟ้อง

คดีดังกล่าวเป็นคดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบหมายเลขดำ อท 131/2567 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ กับพวกรวม 8 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 200, 83, 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172, 192 ซึ่งพบว่ามีขบวนการช่วยเหลือทางคดี โดยเฉพาะการเปลี่ยนความเร็วรถยนต์ของนายวรยุทธ จากมากกว่า 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้เหลือไม่ถึง 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และนายเนตรได้ใช้อำนาจวินิจฉัย สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ซึ่งศาลรับคำฟ้องเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2567

อนึ่ง คดีต้นเรื่องที่มีนายวรยุทธเป็นผู้ต้องหา เหลือเพียง 1 คดี คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแความตาย ซึ่งจะหมดอายุความในปี 2570 และนับจากเกิดคดีความขึ้นเมื่อปี 2555 เรื่อยมาจนถึงบัดนี้ นายวรยุทธ ยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ในต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น