เชียงใหม่ – กกต.เชียงใหม่ เร่งเบรคความดุเดือดศึกเลือกตั้งเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ หลังเกิดกรณีผู้ใหญ่บ้านหัวร้อนขับรถจักรยานยนต์ไล่ชน-คว้าท่อนไม้ไล่ฟาดทีมหาเสียงผู้สมัครจนมีผู้บาดเจ็บ เชิญทุกฝ่ายร่วมประชุมทำความเข้าใจและจับมือสร้างสมานฉันท์ พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่วางตัวเป็นกลาง ทำหน้าที่สุจริตยุติธรรม ขณะที่อำเภอสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ใหญ่บ้านที่ก่อเหตุแล้ว
บ่ายวันนี้(21 เม.ย.68) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน พร้อมด้วยนายนายธนไชย สอนอินทร์ ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ ร่วมประชุมและรับฟังปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้งกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง กรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เม.ย.68 ที่นายนิเรศ เข็มขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านท่าเดื่อ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเหตุกระทบกระทั่งกับ นายภาวิต บุญชละ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ หมายเลข 1 ขณะลงพื้นที่หาเสียง ก่อนขี่จักรยานยนต์พุ่งชนภรรยาของนายภาวิตได้รับบาดเจ็บ และใช้ท่อนไม้ฟาดนายภูวรินทร์ ไชยลังการ์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่เข้าไปห้ามปรามจนได้รับบาดเจ็บด้วย
โดยการประชุมครั้งนี้ได้มีผู้เข้าร่วมได้แก่ นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านทั้ง 9 หมู่บ้าน ของตำบลสันผีเสื้อ ยกเว้นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 และตัวแทนฝ่ายผู้เสียหายที่นำโดยนายภาวิต ตลอดจนผู้อำนวยการการเลือกตั้งและประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำตำบลสันผีเสื้อ ทั้งนี้เพื่อรับฟังกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจกันเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พ.ค.68 เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ชอบด้วยกฎหมายและเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่งบรรยากาศการประชุมพูดคุยเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะทางฝ่ายของนายภาวิต ที่ได้พยายามให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ อย่างไรก็ตามในภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยดีและสิ้นสุดลงในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งก่อนจบการประชุมทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอให้นายภาวิต และนายธนกฤต เป็นตัวแทนทั้งสองฝ่ายจับมือกันเพื่อที่จะช่วยทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างสมานฉันท์และสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการรายงานให้เลขาธิการ กกต.และผู้ว่าราชการจังหวัดเเชียงใหม่ ทราบเกี่ยวกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวแต่เกี่ยวโยงกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ดังนั้นจึงได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมพูดคุยทำความเข้าใจกันให้เกิดความสมานฉันท์ ซึ่งบทสรุปในภาพเป็นไปด้วยดี ทั้งฝ่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ได้เน้นย้ำการใช้อำนาจฝ่ายปกครองและปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง รวมทั้งวางตัวเป็นกลาง ขณะที่ทางตัวแทนฝ่ายผู้เสียหายมีข้อเสนอให้งดเว้นการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 รวมทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั้งหมดของตำบล เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากมองว่าเป็นคู่ขัดแย้ง ซึ่งทาง กกต.ได้รับไว้พิจารณาและดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป ส่วนกรณีที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งร้องเรียนว่า ผู้ใหญ่บ้านวางตัวไม่เป็นกลาง และขัดขวางการหาเสียงเลือกตั้งนั้น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นทาง กกต.กำลังตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานตามที่มีการร้องเรียน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด
ด้านนายภาวิต บุญชละ ผู้สมัครนายเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน พร้อมเอกสารหลักฐาน ผ่านนายธนไชย สอนอินทร์ ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ ถึงนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อข้อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกำนันผู้ใหญ่บ้านวางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีการสวมเสื้อผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ หมายเลข 2 ไปร่วมงานศพในพื้นที่ตำบลสันผีเสื้อ และกรณีผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 นำรถกระบะของตัวเองดัดแปลงเป็นรถแห่หาเสียงจอดอยู่ที่บ้าน พร้อมติดป้ายของผู้สมัครหมายเลข 2และประกาศเชิญชวนชาวบ้านให้มาร่วมงานรดน้ำดำหัว ในเวลา 18.30 น. ของวันที่ 19 เม.ย.68 โดยปรากฏด้วยว่าในงานดังกล่าวไม่มีข้าวของที่ใช้ในพิธีรดน้ำดำหัวตามปกติ แต่กลับมีเพียงซองบรรจุเงินสดซองละ 200 บาท
ขณะที่นายธนไชย สอนอินทร์ ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางกรมการปกครองได้มีการสั่งการเน้นย้ำมาโดยตลอดให้กำนันผู้ใหญ่บ้านวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง และสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตยุติธรรม ซึ่งทางอำเภอจะได้มีการเน้นย้ำไปอีกครั้ง ส่วนกรณีข้อร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลสันผีเสื้อ ที่ถูกกล่าวหาว่าวางตัวไม่เป็นกลางนั้น ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏโดยเร็วที่สุด โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน