"นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์" วอนแพทยสภายึดหลักถูกต้องชอบธรรม สอบสวนกรณีแพทย์เอื้อประโยชน์ทักษิณนอนชั้น 14 ชี้กำลังถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ก่อนหน้านี้หมอวรงค์ระบุ ก่อนหน้านี้แถลงไม่สอดคล้องกับข้อกฎหมาย เผยไกด์ไลน์จี้ใช้สามัญสำนึกสอบ หลังถูกมองแพทย์เอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษ
วันนี้ (21 เม.ย.) นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ สมาชิกแพทยสภา ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงกรรมการแพทยสภา เรียกร้องให้เร่งรัดการตรวจสอบมาตรฐานการรักษาและจริยธรรมของแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลายองค์กรในประเทศไทยถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง และประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ ศรัทธาอีกต่อไป ขณะนี้การพิจารณามาตรฐานการรักษาและจริยธรรมของแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่จับตามอง และรอคอยว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร จึงขอเรียนมายังกรรมการ และอนุกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดดำเนินการอย่างละเอียด รวดเร็ว ยึดมั่นความถูกต้องชอบธรรม เพื่อคงไว้ซึ่งเกียรติภูมิของแพทยสภา และวงการแพทย์ เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของสังคมไทยตลอดไป
ก่อนหน้านี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวบนเวทีเสวนาที่สถาบันทิศทางไทย เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เตือนคณะกรรมการแพทยสภา และอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องว่ากำลังจะติดคุก เนื่องจากการแถลงข่าวของแพทยสภาก่อนหน้านี้ ไม่สอดคล้องกับข้อกฎหมายที่กำหนดให้คณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ต้องดำเนินงานภายใน 180 วัน นับจากวันที่ได้รับทราบจากเลขาธิการแพทยสภา ไม่ใช่วันที่ได้รับเอกสารของโรงพยาบาลตำรวจและทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ขณะเดียวกัน ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถือเป็นระดับทุติยภูมิ มีศักยภาพการรักษาเทียบเท่าโรงพยาบาลจังหวัด อาการของนายทักษิณเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุ ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลตำรวจ แพทยสภาต้องตอบคำถามให้ได้ว่า คืนวันนั้นนายทักษิณอ้างว่าเจ็บหน้าอก นอนไม่หลับ ความดันขึ้น ออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ เกรงว่าเป็นอันตรายต่อชีวิต ทำไมไม่ส่งไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด
จากรายงานทำไมแพทย์เวรไม่มาดูแล นำตัวนายทักษิณไปรักษาเบื้องต้นที่ห้องฉุกเฉิน ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือรักษาพื้นฐานให้เรียบร้อยก่อน เพราะตามรายงานข่าวระบุว่าให้เพียงพยาบาลส่งตัว อีกทั้งการส่งตัวผู้ป่วยถ้าอาการหนักถึงชีวิตต้องใช้รถฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ใช่รถเก๋งหรือรถกระบะธรรมดา ที่อ้างว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤต แทนที่จะส่งเข้าห้องฉุกเฉิน หรือห้องไอซียู กลับส่งขึ้นไปที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นห้องรับรอง VIP รายชื่อที่ถูกแพทยสภาและ ป.ป.ช. สอบกลายเป็นแพทย์ศัลยกรรม และแพทย์กระดูก ไม่ใช่แพทย์โรคหัวใจ ถ้าเป็นผู้ป่วยวิกฤต ทำไมต้องเข้าห้อง MRI ซึ่งใช้เวลาเป็นชั่วโมง จึงควรเชื่อว่าโดยพื้นฐานนายทักษิณไม่ได้ป่วยอันตรายมาก การออกใบรับรองแพทย์ทำไมต้องเปลี่ยนแพทย์คนอื่นออก แทนที่จะเป็นแพทย์เจ้าของคนไข้ และที่อ้างว่าเจ็บป่วยต่อเนื่อง พบว่าหลังจากพักการลงโทษ 180 วัน นายทักษิณกลับบ้านทันที
"เป็นไกด์ไลน์ง่ายๆ ใช้สามัญสำนึกในการสอบ เพราะพฤติกรรมแบบนี้ที่ประชาชนสงสัยว่าแพทย์กำลังเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษ และผมคิดว่าถ้าแพทยสภาทำสิ่งที่ถูกต้อง นักโทษคนนี้ต้องกลับไปสู่คุกเท่านั้น" นพ.วรงค์ กล่าว
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. แพทยสภาประกาศว่า ยังไม่สามารถพิจารณาผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจและทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ เนื่องจากอนุกรรมการได้รับเอกสารเพิ่มเติมในช่วงก่อนหน้าการประชุม โดยเอกสารจากโรงพยาบาลตำรวจมีการส่งมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. และเอกสารจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ส่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. และ 1 เม.ย. ทำให้มีการเลื่อนสรุปผลสอบปมชั้น 14 จากเดิมกำหนดวันที่ 10 เม.ย. ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ถึงขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงเพิ่มเติมจากแพทยสภา ทำให้สังคมยังคงรอคำตอบจากแพทยสภาอย่างใกล้ชิด