xs
xsm
sm
md
lg

ฟังชัดๆ : "ทิม คุก" เผยเหตุผลที่แท้จริง "Apple" เลือกจีนผลิต iPhone เพราะวิศวกรจีนคุณภาพสูง "เมกาแทนที่ไม่ได้" (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


บัญชีทางการของกระทรวงการต่างประเทศจีนในโซเชียลมีเดีย เผยแพร่คลิปวิดีโอเก่า การสัมภาษณ์ ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Apple เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ในการสัมภาษณ์ฯนี้ คุก อธิบายเหตุผลที่แท้จริง ที่ แอปเปิล เลือกจีนเป็นฐานผลิต  iPhone แห่งหลัก
ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กวักมือเรียกบรรดาบริษัทรายใหญ่ รวมทั้งบริษัท แอปเปิล (Apple) ให้ย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ กระตุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลก โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพากันเน้นย้ำถึงความท้าทายในการผลิตขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ “จะไหวมั้ย?” และในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ ทิม คุก ซีอีโอของบริษัทแอปเปิล เมื่อ8 ปีที่แล้ว ก็โผล่ขึ้นมาเป็นไวรัลในโลกโซเชียลมีเดียและบนหน้าสื่อทั่วโลก ในคลิปฯ นายใหญ่แห่งบริษัทแอปเปิล ได้อธิบายชัดเจนถึง “เหตุผลที่แท้จริง” ที่เลือกจีนเป็นฐานหลักในการผลิตไอโฟน (iPhone)

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 บัญชีทางการของกระทรวงการต่างประเทศจีนในโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปวิดีโอเก่าจากการสัมภาษณ์ ทิม คุก (Tim Cook) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท แอปเปิล ซึ่งให้สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่ปี 2560 ในงาน Fortune Global Forum โดยคุกตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ แอปดปิล เลือกใช้จีนเป็นฐานการผลิตหลัก โดยระบุว่าไม่ใช่เพราะต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่า แต่เป็นเพราะ ทักษะของแรงงานจีน และวิศวกรที่ทรงทักษะและคุณภาพสูงจำนวนมหาศาลในประเทศจีนที่หาไม่ได้ในสหรัฐฯ

ซีอีโอ แอปเปิล ทิม คุก เผยเหตุผลที่แท้ทรูในการเลือกจีนเป็นฐานผลิตหลักของบริษัทแอปเปิล เพราะวิศวกรจีนที่ทรงคุณภาพ ทักษะสูงล้ำ และมีจำนวนมหาศาล ในภาพ ทิม คุก เยี่ยมโรงงานฟ็อกคอนน์ ซึ่งรับจ้างผลิตไอโฟน ที่เมืองเจิ้งโจว (แฟ้มภาพปี 2012)
คุกกล่าวว่า “เรามักเข้าใจผิดว่า แอปเปิล เลือกจีนเพราะค่าจ้างแรงงานต่ำ ผมไม่แน่ใจว่าคนที่พูดแบบนั้นไปดูมาจากพื้นที่ไหนในจีน แต่ความจริงก็คือ จีนไม่ใช่ประเทศค่าจ้างต่ำมาหลายปีแล้ว… สิ่งที่เราต้องการคือ ‘ทักษะ’ ของแรงงาน และจีนมีทักษะขั้นสูง มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคระดับสูงมาก”

เขายังเปรียบเทียบว่า “เวลาจัดประชุมวิศวกรในสหรัฐฯ ผมยังไม่มั่นใจว่าจะหาได้พอสำหรับห้องประชุมหนึ่งห้อง แต่ในจีน เราสามารถจัดวิศวกรจนเต็มได้หลายสนามฟุตบอล นั่นเป็นระดับของทักษะที่นี่”

การแชร์คลิปนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ แอปเปิล กำลังเผชิญความท้าทายจากมาตรการภาษีใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งทำให้บริษัทต้องรีบลำเลียง iPhone จากอินเดียไปยังสหรัฐฯ เพื่อให้ทันขายก่อนราคาจะพุ่งขึ้นหลังโดนเรียกเก็บภาษีอัตราใหม่

หลังจากที่คลิปสัมภาษณ์ซีอีโอ แอปเปิล ถูกนำมาเผยแพร่อีกครั้ง ชาวเน็ตต่างเห็นด้วยกับ ทิม คุก พวกเขาเห็นพ้องกันว่า...

“จริงแท้แน่นอน มันเป็นเรื่องของขนาด อัตราความรวดเร็ว และความแม่นยำ จีนเป็นแหล่งที่อุดมด้วยวิศวกรการผลิต มีทักษะที่สูงล้ำอีกทั้งมีขนาดมหึมา”

“จริง...จริง... ฉันบอกกับผู้ร่วมงานชาวจีน ค่าแรงงานในจีนสูงมาก เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว”


ขณะที่สงครามการค้าเดือดพล่านจากการประกาศขึ้นอัตราภาษีที่พุ่งเป้าที่จีน ก็มีข่าวแพร่สะพัดว่า ภายใน 3 วัน บริษัทแอปเปิล ใช้เครื่องบิน 5 ลำ โดยแต่ละลำขนโทรศัพท์มือถือไอโฟนเต็มลำ จากโรงงานในอินเดีย และจีน ไปยังสหรัฐฯ
กลุ่มสื่อจีนและสื่อต่างประเทศรายงานว่าAppleใช้เครื่องบินขนส่งสินค้าอย่างน้อย 6 ลำ โดยแต่ละลำสามารถบรรทุกสินค้าได้ประมาณ 100 ตัน เพื่อขน iPhone รวม 600 ตัน หรือประมาณ 1.5 ล้านเครื่อง กลับมายังสหรัฐฯ ระหว่างเดือน มี.ค.ถึงต้น เม.ย. ทั้งนี้ iPhone รุ่น 14 พร้อมสายชาร์จมีน้ำหนักประมาณ 350 กรัมต่อกล่อง จึงสามารถคำนวณได้ว่า iPhone จำนวนดังกล่าวคิดเป็นน้ำหนักรวมราว 600 ตัน

รายงานระบุว่า Appleเร่งขนสินค้าเพื่อตุนสต๊อกไว้ขายก่อนที่ภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ เพื่อไม่ให้ต้องขึ้นราคาสินค้าอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลต่อยอดขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บริษัทหลักทรัพย์ Rosenblatt Securities คาดการณ์ว่า หากภาษี 54% ของสหรัฐฯ มีผลเต็มรูปแบบ iPhone 16 Pro Max ซึ่งเดิมมีราคาขาย 1,599 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 59,100 บาท) อาจเพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 85,000 บาท)

แม้ว่า Apple จะขยายฐานการผลิตไปยังอินเดีย โดยในปีนี้คาดว่าจะผลิต iPhone ในอินเดียได้ประมาณ 25 ล้านเครื่อง (ราว 10 ล้านเครื่องสำหรับขายในอินเดีย ส่วนที่เหลือส่งออก) แต่ยังไม่สามารถทดแทนการผลิตในจีนได้ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ของ Apple ยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและชิ้นส่วนจากจีน

แม้การประกอบขั้นสุดท้ายจะย้ายได้บางส่วน แต่อุปกรณ์สำคัญ เช่น ชิป หน้าจอ กล้อง หรือโมดูลสื่อสาร ยังคงผลิตในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะในจีนและเกาหลีใต้

บทวิเคราะห์จากสื่ออเมริกัน Washington Post ชี้ว่า iPhone คือผลผลิตของห่วงโซ่อุปทานระดับโลกโดยแท้จริง ถูกออกแบบในแคลิฟอร์เนีย แต่ประกอบที่จีนหรืออินเดียด้วยชิ้นส่วนจากหลายประเทศ การเปลี่ยนให้ทุกขั้นตอนอยู่ในสหรัฐฯ ตามความฝันของประธานาธิบดีทรัมป์จึงแทบเป็นไปไม่ได้

หลังจากที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศรีดภาษีนำสินค้านำเข้าจากจีน ถึง 125 เปอร์เซ็นต์ ผู้ที่ร้อนใจมากที่สุดคนหนึ่งก็คือ ซีอีโอบริษัท แอปเปิล นาย ทิม คุก
ผู้เชี่ยวชาญซัพพลายเชนเห็นตรงกันว่า “หาก Apple ต้องย้ายทุกกระบวนการผลิตกลับสหรัฐฯ ต้นทุนจะพุ่งสูงเกินกว่าจะควบคุมได้ และใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะทำได้”

นักวิเคราะห์ TechInsights ยังชี้ว่า iPhone 16 Pro ความจุ 256GB มีต้นทุนราว 580 ดอลลาร์ (ประมาณ 21,300 บาท) หากรวมค่าประกอบและทดสอบอีก 30 ดอลลาร์ (2,200 บาท) รวมต้นทุนราว 850 ดอลลาร์ (ราว 31,200 บาท) แล้วหากโดนภาษีอีก 54% ต้นทุนจะเกือบเท่าราคาขาย

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า Apple อาจเลือก “ทยอยขึ้นราคา” เพื่อไม่กระทบยอดขาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อเครื่องแบบผ่อนรายเดือน

แม้รัฐบาลสหรัฐฯ โดยโฆษกทำเนียบขาว และรัฐมนตรีพาณิชย์จะพยายามยืนกรานว่า Apple สามารถย้ายการผลิตกลับมาอเมริกาได้ พร้อมอ้างถึงแผนลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ แต่หลายฝ่ายในอุตสาหกรรมมองว่านั่นเป็น “ความหวังที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง”

ที่มา: 极目新闻, 外交部发言人账号, 中国日报, 中新网, Washington Post, CNBC


กำลังโหลดความคิดเห็น