xs
xsm
sm
md
lg

อดีตขุนคลัง ‘เจเน็ต เยลเลน’ เตือนนโยบาย ‘ทรัมป์’ ทำให้โลกเสื่อมศรัทธาในสหรัฐฯ-หวั่นชาติพันธมิตรหันคบจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ

เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ”

“ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า”

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย.

อดีตขุนคลังหญิงผู้นี้ยังไม่แนะนำให้สหรัฐฯ หันไปออกพันธบัตรระยะสั้นเพิ่มขึ้นเพื่อลดทอนผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่พุ่งสูง โดยชี้ว่านโยบายการออกพันธบัตรที่คาดการณ์ได้และตอบสนองความต้องการของตลาดคือสิ่งจำเป็น

เยลเลน เอ่ยย้ำว่า คำสั่งรีดภาษีประเทศคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของ ทรัมป์ กำลัง “ทุบ” เศรษฐกิจอเมริกาเอง และยังกัดเซาะระบบพันธมิตรของสหรัฐฯ ก่อความกังวลเกี่ยวกับอนาคตขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ปัญหายูเครน รวมไปถึงความตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดาด้วย

“ฉะนั้น ดิฉันจึงเป็นห่วงจริงๆ ว่าสหรัฐฯ กำลังโดดเดี่ยวตนเอง ถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ และกำลังสร้างโอกาสให้จีนทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรที่ดีที่สุดของเราเราบางราย อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอื่นๆ” เธอกล่าว

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น