จีนเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ บรรดาสมาชิกของกลุ่ม BRICS ได้มีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ และแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดทางการค้า พร้อมเรียกร้องความเป็นหนึ่งเดียวกันในการปกป้องสภาพแวดล้อมทางการค้า
ปักกิ่งระบุว่ามาตรการรีดภาษีของวอชิงตัน "บ่อนทำลายระบบการค้าระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ก่อความปั่นปวนแก่ห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมโลก และส่งผลกระทบยืดเยื้อต่อเศรษฐกิจโลก" ความเห็นนี้มีขึ้นระหว่างการประชุมรอบ 2 ของคณะทำงานประสานงานในประเด็นการค้าและเศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ อ้างอิงถ้อยแถลงของกระทรวงพาณิชย์จีน
ถ้อยแถลงระบุว่าจีนเรียกร้องบรรดาชาติต่างๆ "ให้ยึดมั่นอย่างมั่นคงต่อทิศทางที่ถูกต้องของโลกาภิวัตน์ ร่วมกันปกป้องระบบการค้าพหุภาคีบนพื้นฐานของกติกา และธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก"
ความเห็นนี้ดูเหมือนเป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ในการปกป้องสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่ยุติธรรมและอยู่บนพื้นฐานของกติกา
ในถ้อยแถลงบอกต่อว่า "บรรดาสมาชิกยังแสดงความกังวลใหญ่หลวงเกี่ยวกับผลกระทบรุนแรงของมาตรการรีดภาษี ที่มีต่อระบบการค้าพหุภาคี" พร้อมระบุสาชิกหลายชาติพูดตรงกันว่ามาตรการลงโทษทางภาษีดังกล่าวละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลกอย่างร้ายแรง และชี้ถึงความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลกระทบในทางลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและ "ผลประโยชน์ของบรรดาชาติกำลังพัฒนา"
นอกเหนือจากถ้อยแถลงนี้ ทาง หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีพาณิชย์จีน ได้พูดคุยทางวิดีโอคอลล์กับ ดร.เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการการค้าโลก ในวันศุกร์(11เม.ย.) หารือเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯและบทบาทขององค์กรแห่งนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก จีน ได้ยื่นฟ้องร้องต่อองค์การอนามัยโลก สืบเนื่องจากมาตรการรีดภาษีของทรัมป์
ปัจจุบัน BRICS ประกอบไปด้วย บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้, อียิปต์, เอธิโอเปีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
(ที่มา:อนาโดลู)