xs
xsm
sm
md
lg

ไม่อ้ำอึ้ง! “ทรัมป์” ประกาศโพล่งระหว่างพบ “เนทันยาฮู” ในทำเนียบขาว ยืนยันเป็นครั้งแรก “สหรัฐฯ” กำลังเปิดเจรจาตรงกับ “อิหร่าน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวานนี้(7 เม.ย) ขณะที่กำลังหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่ทำเนียบขาวได้ประกาศว่า สหรัฐฯกำลังเปิดการเจรจากับอิหร่านโดยตรง พร้อมเตือนว่า เตหะรานจะเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงหากเจรจาเกิดล้ม

เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวานนี้(7 เม.ย)ว่า ระหว่างการหารือร่วมกันกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์(7) พบว่าผู้นำอเมริกันได้ออกมาเปิดเผยว่า การหารือร่วมกันกับอิหร่านจะเริ่มต้นในสุดสัปดาห์นี้ แต่เขาได้ออกมาเปิดเผยเป็นนัยว่า การสื่อสารได้เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว

ทรัมป์กล่าวต่อว่า การเจรจาเกิดขึ้นในความพยายามเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “มันชัดเจน” ที่อ้างอิงไปถึงสหรัฐฯหรือการโจมตีทางการทหารของอิสราเอลต่อสิ่งปลูกสร้างทางนิวเคลียร์

“พวกเรากำลังมีเจรจาทางตรงกับอิหร่านและพวกเขาได้เริ่มต้น มันจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์(12) พวกเรากำลังจะมีการประชุมครั้งใหญ่ และพวกเราจะดูว่าจะมีสิ่งใดกำลังจะเกิดขึ้นบ้าง”

และเสริมต่อว่า “และผมคิดว่าทุกคนได้ตกลงว่าการทำข้อตกลงนั้นดีกว่าในการทำอย่างเห็นได้ชัด และเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่ว่าไม่ใช่บางสิ่งที่ผมต้องการเข้าเกี่ยวข้องด้วย หรืออย่างตรงไปตรงมา ที่ อิสราเอลต้องการเกี่ยวข้องหากว่าพวกเขาสามารถเลี่ยงได้”

และทรัมป์เสริมว่า “ดังนั้นพวกเรากำลังจะดูว่าหากว่าพวกเราสามารถหลีกเลี่ยงมัน แต่มันจะเป็นดินแดนที่อันตรายมาก และผมคิดว่ามันเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของอิหร่านหากว่ามันประสบความสำเร็จ”

อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นที่ใดหรือเจ้าหน้าที่คนใดจะเกี่ยวข้อง

ทรัมป์อย่างไรก็ตามยังออกมาข่มขู่ว่า หากการเจรจาล้มเหลว เขาชี้ว่าอิหร่านจะอันตรายเป็นอย่างมาก

“ผมคิดว่าหากการเจรจาไม่เกิดประสบความสำเร็จกับอิหร่าน...อิหร่านกำลังอยู่ในวิกฤตอันตรายมากและผมเกลียดที่ต้องพูดมัน..เพราะพวกเขาไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์”

และเสริมต่อว่า “ไม่ใช่สูตรที่ซับซ้อน อิหร่านไม่สามารถที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ ในเวลานี้พวกเรามีเหล่าประเทศที่มีอำนาจนิวเคลียร์และไม่สมควรมีมัน แต่ผมมั่นใจว่าพวกเราจะสามารถที่จะเจรจาออกจากพวกนี้”

และกล่าวว่า “และหากว่าการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จผมคิดไปว่ามันคงเป็นวันที่ยากลำบากสำหรับอิหร่าน”

ระหว่างการอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของเขา ทรัมป์ได้ถอดข้อตกลงที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ที่รู้จักในชื่อแผนครอบคลุมร่วมของมาตรการปฎิบัติ(Joint Comprehensive Plan of Action) ซึ่งเป็นข้อตกลงเสนอให้บรรเทาการคว่ำบาตรอิหร่านเพื่อแลกเปลี่ยนกับการจำกัดการเสริมประสิทธิภาพแร่ยูเรเนียม แทนที่จะเป็นการใช้วิธีแข็งกร้าวคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

นักวิจารณ์ต่างกล่าวว่า อิหร่านอย่างไรก็ตามได้ออกมารีบเดินหน้าโครงการอาวุธนิงเคลียร์และใกล้ที่จะสามารถสร้างระเบิดนิวเคลียร์สำเร็จ และความพยายามที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงที่เจรจาไว้ในสมัยโอบามาไม่สามารถกู้ไว้ได้

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่มองอิหร่านเป็นเสมือนศัตรูตัวฉกาจพยายามอย่างแข็งขันในการบั่นทอนข้อตกลงนิวเคลียร์ของโอบามาและต่อต้านข้อตกลงใดๆก็ตามที่จะเปิดทางให้บรรดาผู้นำของอิหร่านสามารถยังคงมีโครงการไว้ต่อไปที่จะเปลี่ยนให้กลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์ไว้ได้

อิหร่านและสหรัฐฯต่างไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงทางการทูตระหว่างกันนับตั้งแต่สมัยปี 1980 เมื่อการปฎิวัติอิหร่านบุกเข้าไปในสถานทูตอเมริกันในกรุงเตหะรานและจับตัวประกันทูตทั้งหมดร่วม 53 คนที่อยู่ด้านในเป็นเวลา 444 วัน


กำลังโหลดความคิดเห็น