ส.ว.ไม่ยอมตกขบวน ร่วมต้านกาสิโน เสนอทำประชามติ

ส.ว.ไม่ยอมตกขบวน ร่วมต้านกาสิโน เสนอทำประชามติ

หนึ่งในแนวต่อต้านการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีความน่าสนใจ คือ ท่าทีของวุฒิสภา หลังจากสัปดาห์ก่อนบรรดาแกนนำวิปวุฒิสภาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ปรากฎว่าสัปดาห์นี้กำลังจะมีความเคลื่อนไหว คือ การเตรียมแถลงคัดค้านกาสิโนอย่างเป็นทางการ

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันที 8 เม.ย. ตนจะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาต่อที่ประชุม เพื่อขอให้วุฒิสภาพิจารณาการทำประชามติต่อประเด็นสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมถึงมีกาสิโน เพราะในประเด็นดังกล่าวมีผลกระทบต่อส่วนรวมและหลายฝ่ายมีความกังวล ตนจึงเห็นว่าควรถามประชาชนดีที่สุด ผ่านช่องทางการทำประชามติ อย่างไรก็ดี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติที่บังคับใช้นั้น รัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ สามารถตั้งเรื่องเพื่อทำประชามติได้ เพื่อลดความขัดแย้งในสังคม

“การเสนอญัตติให้พิจารณา ถือเป็นทางออกของสังคมได้ดีที่สุด เพราะเรื่องนี้ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้เสนอเป็นนโยบายและใช้หาเสียงกับประชาชน ดังนั้นหากจะทำตอนนี้ ถือว่าไม่มีความชอบธรรม เนื่องจากประชาชนไม่ได้เลือกคุณเข้ามาเพราะนโยบายนี้ หรือให้มาทำสิ่ง่นี้ ขณะเดีวกันรัฐบาลยืนยันถึงความเป็นประโยชน์ ดังนั้นต้องคำนึงถึงประโยชน์ของระชาชน โดยต้องยุติความขัดแย้งต่างๆ ม็อบต่างๆ แต่หากรัฐบาลอยากจะทำ ต้องถามต่อว่าความชอบธรรมอยู่ตรงไหน ทำไมไม่ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ตัดสิน” น.ส.นันทนา กล่าว

นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระบุว่า อยากให้ประชาชนแสดงจุดยืนให้รัฐบาลเห็นว่าไม่ต้องการกาสิโนในประเทศไทย โดยสงบและถูกกฎหมาย และอยากให้ประชาชนไปหา สส.ในจังหวัดตัวเอง เพื่อให้ สส.แสดงจุดยืนว่าเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ กับการมีกาสิโน ไปย้ำจุดยืนของเรากับ สส.แล้วถ้าเขาไม่เชื่อ ประชาชนก็จำไว้ว่าผู้แทนฯ จะเอากาสิโนเข้าประเทศไทย จากนั้นเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะได้ใช้สติปัญญา คิดวิเคราะห์อีกครั้งว่าจะเลือก สส.รายนี้หรือไม่

ด้าน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาตินำโดย ศ.เทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธาน สปช. และ รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง อดีตรองประธาน สปช.ได้เข้าชื่อกันคัดค้าน พร้อมทำหนังสือเปิดผนึกถึงประธานรัฐสภา หัวหน้าพรรคการเมือง และสมาชิกรัฐสภา เรื่อง ขอให้พิจารณาไม่ผ่าน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิง พ.ศ…. โดยมีรายละเอียดดังนี้

ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าว ไม่สามารถสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้จริงตามที่กล่าวอ้าง ดังที่สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) ชี้ไว้แล้วว่าการพนันไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของ GDP เพราะการโอนย้ายเงินจากผู้เสียพนันไปให้ผู้ได้พนัน ปราศจากการผลิตสินค้าและบริการใดๆ เป็นเพียงการย้ายเงินจากมือคนหนึ่งไปสู่มืออีกคนหนึ่งเท่านั้น แต่ทำให้คนเล่นหรือเหยื่อหมดเนื้อหมดตัว มีแต่เจ้ามือและกลุ่มธุรกิจสีเทาที่ร่ำรวย จึงสมควรที่รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องรับฟัง มิเช่นนั้นแล้วท่านจะกลายผู้นำทรราชที่ไม่รับฟังเสียงคัดค้านของประชาชนที่เลือกพวกท่านขึ้นมาเป็นผู้แทนของประชาชน และจะหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไป