อิสราเอลอ้ำอึ้งขอตรวจสอบเพิ่ม หลังมีการเปิดเผยคลิปจากมือถือของ 1 ใน 15 สมาชิกทีมฉุกเฉินของยูเอ็นที่เสียชีวิตเมื่อปลายเดือนที่แล้วซึ่งฟ้องว่า ทหารยิวยิงใส่ขบวนรถของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นทั้งที่มีสัญลักษณ์รถฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบชัดเจน ไม่ได้มีพฤติกรรมน่าสงสัยอย่างที่รายงานเบื้องต้นของอิสราเอลกล่าวอ้าง อย่างไรก็ดี รัฐบาลทรัมป์ยังออกมาให้ท้ายรัฐยิวเหมือนเดิมว่า ฮามาสซึ่งชอบใช้รถพยาบาลและโล่มนุษย์ป้องกันตนเองต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ดังกล่าว
รอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มแพทย์และหน่วยตอบสนองเหตุฉุกเฉิน 15 คนของสหประชาชาติ และสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ก่อนถูกนำร่างไปฝังในหลุมตื้นๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่ยูเอ็นไปพบในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ยังคงสูญหาย
แรกทีเดียวกองทัพอิสราเอลแถลงอธิบายว่า ทหารของตนยิงใส่ขบวนรถที่ขับเข้ามาใกล้ “อย่างน่าสงสัย” ท่ามกลางความมืดโดยไม่เปิดไฟหรือมีสัญลักษณ์ใดๆ และได้สังหารนักรบฮามาสและกลุ่มอิสลามิกญิฮาด 9 คนที่มากับขบวนรถของสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์
ทว่า วิดีโอที่กู้จากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งซึ่งสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์นำมาเผยแพร่ ตลอดจนถึงการเปิดเผยของมันเธอร์ อาเบด แพทย์ฉุกเฉินซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวในเหตุการณ์ดังกล่าว กลับเผยให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในเครื่องแบบ ตลอดจนถึงรถพยาบาลและรถดับเพลิงติดสัญลักษณ์ชัดเจนและเปิดไฟ ขณะถูกทหารอิสราเอลยิงใส่
ในคืนวันเสาร์ (5 เม.ย.) ฝ่ายทหารอิสราเอลนายหนึ่งออกมาแก้ต่างว่า กำลังตรวจสอบเนื้อหาในวิดีโอดังกล่าวและจะส่งผลการตรวจสอบให้ผู้บัญชาการกองทัพในวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ก่อนสำทับว่า รายงานเบื้องต้นจากภาคสนามไม่มีการพูดถึงไฟรถ แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังตรวจสอบ “ข้อมูลปฏิบัติการ” และทำความเข้าใจว่า เรื่องนี้มาจากความผิดพลาดของผู้ที่จัดทำรายงานเบื้องต้นหรือไม่
ทางฝ่ายสื่ออิสราเอลที่ได้รับข้อมูลสรุปจากกองทัพรายงานว่า ทหารอิสราเอลระบุว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิต 15 คนในเหตุการณ์นั้น อย่างน้อย 6 คนเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะแสดงหลักฐานหรือรายละเอียดโดยอ้างว่า เป็นข้อมูลลับ และเสริมว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
ขณะที่ไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าใจดีถึงการที่อิสราเอลต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้ จากการที่ฮามาสมักใช้รถพยาบาลและโล่มนุษย์ปกป้องตนเอง เหตุการณ์นี้จึงถือเป็นความผิดของฮามาสโดยสิ้นเชิง
ด้านยูเอ็นและสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์เรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอิสระและสำทับว่า นอกจากอาเบดที่ถูกควบคุมตัวอยู่นานหลายชั่วโมงก่อนที่ทหารอิสราเอลจะยอมปล่อยออกมานั้น ยังมีเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งที่สูญหายจนถึงขณะนี้
ทหารอิสราเอลนายหนึ่งยังอ่างว่า กองทัพอิสราเอลได้แจ้งยูเอ็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที ไม่ได้พยายามปิดบังอย่างที่เป็นข่าว และนำตาข่ายลายพรางมาคลุมศพผู้เสียชีวิต ทว่า เนื่องจากยูเอ็นไม่ได้เข้าไปรับร่างผู้เสียชีวิตทันที ทหารจึงนำทรายมากลบไว้เพื่อป้องกันสัตว์ไปกินซากศพ
นายทหารคนเดิมเพิ่มเติมว่า กองทัพได้ส่งรถบรรทุกหนักไปนำรถของทีมฉุกเฉินของยูเอ็นออกจากถนน แต่เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดรถเหล่านั้นจึงถูกรถบรรทุกชนและถูกฝัง
ทั้งนี้ ยูเอ็นระบุยืนยันในสัปดาห์ที่แล้วว่า ได้รับแจ้งตำแหน่งก็จริงแต่เข้าไปรับศพผู้เสียชีวิตไม่ได้ เนื่องจากทหารอิสราเอลไม่ยอมให้ผ่านทางอยู่นานหลายวัน และเสริมว่า ศพเหล่านั้นถูกฝังอยู่ข้างรถที่ถูกชนซึ่งติดสัญลักษณ์รถฉุกเฉินอย่างชัดเจน
นับจากฉีกข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 18 มี.ค. อิสราเอลฟื้นปฏิบัติการโจมตีหนักหน่วงทั่วกาซา ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตวันละหลายสิบคนเกือบทุกวัน จนล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตในสงครามกาซาที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 ภายหลังนักรบฮามาสบุกเข้าไปโจมตีอิสราเอลนั้น เพิ่มเป็นกว่า 50,000 คน
ในวันจันทร์ (7 เม.ย.) หน่วยแพทย์ฉุกเฉินปาเลสไตน์เผยว่า อิสราเอลโจมตีเต็นท์หน้าโรงพยาบาลใหญ่สองแห่งคือโรงพยาบาลนัสเซอร์ ในเมืองข่านยูนิส ทางใต้ของกาซา และโรงพยาบาลอัล-อักซา มาร์เตอร์ส์ ตอนกลางของกาซาในช่วงคืนวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนที่รวมถึงผู้สื่อข่าวท้องถิ่น และบาดเจ็บ 9 คน
ขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขกาซารายงานว่า ตลอดวันอาทิตย์มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลอย่างน้อย 39 คน
นอกจากนั้นฮามาสยังประกาศว่า ได้ยิงจรวดจากกาซาโจมตีเมืองทางใต้ของอิสราเอลในวันอาทิตย์เพื่อตอบโต้การสังหารหมู่ของทหารยิว ขณะที่กองทัพอิสราเอลแถลงว่า มีจรวดยิงมาจากกาซา 10 ลูก แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดได้ กระนั้น สถานีทีวีแชนเนล 12 รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโจมตีนี้อย่างน้อย 12 คน
ในเวลาต่อมา สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกคำแถลงว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งมีนัดพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์นั้น สั่งให้ตอบโต้การโจมตีของฮามาสอย่างรุนแรง
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)