อิหร่านจะไม่ยอมโอนอ่อนต่อแรงกดดันของต่างชาติ และพร้อมสำหรับตอบโต้การรุกรานไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม จากคำประกาศกร้าวของพลตรีฮุสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน(IRGC) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นตามหลัง พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เสริมความเข้มแข็งแก่แสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาในตะวันออกกลาง ด้วยการส่งฝูงบินรบเข้าไปประจำการเพิ่มเติม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ขู่ทิ้งบอมบ์และรีดภาษีรองเล่นงานอิหร่าน หากว่าเตหะรานไม่ยอมเจรจาตกลงกับวอชิงตัน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
ระหว่างพบปะกับบรรดาผู้บัญชาการระดับอาวุโสของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านในวันเสาร์(5เม.ย.) พลตรีซาลามี บอกว่าเตหะราน "ไม่กังวลใดๆเกี่ยวกับสงคราม เราจะไม่เป็นคนเริ่มสงคราม แต่พร้อมสำหรับสงครามไหนๆ" พร้อมระบุว่าอิหร่านได้คิดค้นยุทธศาสตร์ต่างๆในการเอาชนะอิศัตรูใดๆ ป้องปรามปฏิบัติการจิตวิทยา เช่นเดียวกับการโจมตีโดยตรงทางทหาร ""เราจะไม่ถอนแม้แต่ก้าวเดียว ในการเผชิญหน้ากับศัตรู"
ผู้บัญชาการรายนี้บอกว่าปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล เล่นงานสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย ปี 2024 ปลิดชีพบรรดาเจ้าหน้าที่ทหารระดับอาวุโสของเตหะรานหลายนาย คือจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้าระดับนานาชาติในตะวันออกกลาง
พลตรีซาลามี ยังคุยโวกล่าวอ้างว่าการโจมตีแก้แค้นของอิหร่าน ซึ่งเกี่ยวกับขีปนาวุธหลายร้อยลูกและโดรนหลายร้อยลำ สามารถมีชัยเหนือสิ่งที่เขาเรียกว่า "ป้อมปราการทางน่านฟ้าที่เข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์" โดยที่ "ขีปนาวุธของเราสามารถเจาะทะลวงภาพลวงตาด้านความมั่นคงของพวกเขาได้สำเร็จ" นายพลนายนี้กล่าว อ้างถึงระบบโล่ป้องกันของอิสราเอล
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันทางฝ่ายอิสราเอล กล่าวอ้างว่าการโจมตีดังกล่าวของอิหร่าน ก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อยแก่ที่ตั้งทางทหารบางส่วนเท่านั้น
กระนั้น พลตรีซาลามี เน้นว่าอิสราเอลยังคงอ่อนแอต่อแสนยานุภาพทางทหารของอิหร่าน "เราได้มาซึ่งองค์ความรู้และสูตรต่างๆสำหรับเอาชนะศัตรูนี้ และบูรณาการองค์ความรู้และสูตรต่างๆเหล่านั้นเข้ากับทุกองค์ประกอบของอาวุธและยุทโธปกรณ์ของเรา" เขากล่าว
ความเห็นของนายพลรายนี้มีขึ้นในขณะที่ความขัดแย้งในกาซายังคงไม่หยุดลง และมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม มาร์โก รูบิโอ เตือนแบบเดียวกับ ทรัมป์ ว่าวอชิงตันอาจใช้ปฏิบัติการเพื่อขัดขวางอิหร่านจากการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ "เรามีความสามารถในการทำเช่นนั้น และมากกว่านั้น บางทีอาจถึงขั้นคุกคามระบอบการปกครอง" เขาบอก
ในสมัยแรกของการดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2017-2021 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับบรรดาชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2015 ที่จำกัดความเคลื่อนไหวในโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แลกกับการปลดมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานเตหะราน นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังกลับมาคว่ำบาตรเล่นงานอิหร่านรอบใหม่
นับตั้งแต่นั้น อิหร่าน สามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้เกินกว่าขีดจำกัดมากมายหลายเท่า
บรรดาชาติตะวันตกกล่าวหาอิหร่านมีวาระซ่อนเร้นในการพัฒนาแสนยานุภาพอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมจนเป็นวัสดุฟิสไซล์ที่มีความบริสุทธิ์สูง เหนือกว่าสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นโครงการพลังงานปรมาณูทางพลเรือน อย่างไรก็ตามเตหะรานเน้นย้ำว่าโครงการนิวเคลียร์ของพกวเขา มีจุดประสงค์เพื่อพลังงานพลเรือนแต่เพียงอย่างเดียว
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์/เอเจนซี)