xs
xsm
sm
md
lg

วอนอเมริกันชนทนเจ็บปวด!ทรัมป์เน้นย้ำทำถูกแล้ว สั่งรีดภาษีสะเทือนโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันเสาร์(5เม.ย.) ยืนกรานทำถูกต้องในการกำหนดรีดภาษีอย่างครอบคลุมเล่นงานประเทศต่างๆทั่วโลก เตือนพลเมืองอเมริกาความเจ็บปวดรออยู่เบื้องหน้า แต่รับปากมันจะก่อการลงทุนและความรุ่งเรืองครั้งประวัติการณ์

ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากมาตรการการค้าที่กว้างขวางทางที่สุดของทรัมป์มีผลบังคับใช้ ในความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นทั้งการตอบโต้และความตึงเครียดทางการค้า ในนั้นรวมถึงกับสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ที่ผู้นำทั้ง 2 ชาติบอกว่า "ไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ" ในการเอาคืน

ทรัมป์ ยอมรับว่ามาตรการรีดภาษีของเขาก่อความปั่นป่วนระดับโลก แต่เรียกร้องให้อเมริกันชนอดทน "เราเคยเป็นแท่นลงทัณฑ์โง่ๆและไร้ประโยชน์ แต่เราไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เรากำลังดึงงานและธุรกิจกลับมา อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" เขาเขียนบนทรัสต์โซเชียล "นี่คือการปฏิวัติทางเศรษฐกิจ และเราจะชนะ จงอดทนอดกลั้น มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผลลัพธ์มันจะเป็นประวัติศาสตร์"

มาตรการภาษีพื้นฐาน 10% มีผลบังคับใช้หลังผ่านเที่ยงคืนวันศุกร์(4เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เล่นงานสินค้านำเข้าสหรัฐฯเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางส่วนจากเม็กซิโกและแคนาดา หลังจาก ทรัมป์ ใช้อำนาจฉุกเฉินด้านเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตามพบเห็นความไม่ลงรอยกันระหว่าง ทรัมป์ กับ อีลอน มัสก์ ที่ปรึกษาใกล้ชิดของเขา โดยมหาเศรษฐีซีอีโอของเทสลาในวันเสาร์(5เม.ย.) แสดงความหวังว่าท้ายที่สุดแล้ว สหรัฐฯและยุโรป อาจมุ่งหน้าสู่สถานการณ์ "รีดภาษีเป็นศูนย์"

"มันอาจส่งผลให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างยุโรปกับอเมริกาเหนือ" มัสก์กล่าวในกรุงโรม ระหว่างพุดคุยกับนาย มัตเตโอ ซัลวินี รองนายกรัฐมนตรีขวาจัดของอิตาลี

อียู ญี่ปุ่นและจีน เป็นหนึ่งในคู่หูการค้าของสหรัฐฯราวๆ 60 ชาติ ที่เตรียมเจอกับการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในวันที่ 9 เมษายน

มาตรการีดภาษี 34% กับสินค้านำเข้าจากจีนของทรัมป์ มีกำหนดเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า กระตุ้นให้ปักกิ่งแถลงเรียกเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ของสหรัฐฯ 34% นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนเป็นต้นไป

นอกจากนี้แล้วปักกิ่งยังขู่ว่าพวกเขาจะฟ้องร้องวอชิงตันต่อองค์การการค้าโลก และจำกัดการส่งออกแร่หาธาตุที่ใช้ในเทคโนโลยีการแพทย์และอิเล็กทรอนิกส์ "จีนโดนหนักกว่าสหรัฐฯมากมายหลายเท่า ไม่เฉียดใกล้กันด้วยซ้ำ" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล "พวกเขา และประเทศอื่นๆอีกมากมาย ปฏิบัติกับเราอย่างแย่ๆ"

ในขณะที่พวกคู่ค้าหลีกอื่นๆมองถึงความเป็นไปได้ของความเสี่ยงทางภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจผลจากมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ ในส่วนของผู้นำฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ยืนกรานว่า "ไม่ตัดความเป็นไปด้ใดๆ" ในการตอบโต้สหรัฐฯ "สงครามการค้าไม่เป็นประโยชน์กับใคร" ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร เห็นพ้องกันระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์

พวกนักเศรษฐศาสตร์จากอ็อกซ์ฟอร์ดเตือนว่าแม้ ทรัมป์ กำหนดเส้นตายเปิดพื้นที่ให้ประเทศต่างๆเข้าสู่การเจรจาต่อรอง "แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการบรรเทาโทษ มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะตอบโต้ แบบเดียวกับที่จีนทำ"

มารอส เซฟโควิช หัวหน้าด้านการค้าของอียู บอกว่าทางกลุ่ม ซึ่งเจอรีดภาษี 20% จะดำเนินการ "อย่างสงบ เป็นขั้นเป็นตอนอย่างระมัดระวัง ในแนวทางที่เป็นหนึ่งเดียวกันและเปิดทางสำหรับการเจรจา" แต่เขาเน้นย้ำว่าอียูจะมียืนดูอยู่เฉยๆ

ฝรั่งเศสและเยอรมนี แย้มว่าอียูอาจจอบโต้ด้วยการกำหนดเพดานภาษีสำหรับบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายของสหรัฐฯ

ศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ระบุว่ามาตรการรีดภาษีทั่วโลกครั้งใหม่ของทรัมป์ "ถือเป็นการขึ้นภาษีครั้งที่กว้างขวางที่สุดนับตั้งแต่กฎหมาย Smoot-Hawley Tariff Act ปี 1930 ที่จำได้ว่า มันโหมกระพือสงครามการค้าระดับโลก และก่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่(Great Depression) หนักหน่วงขึ้น"

(ที่มา:เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น