เจ๊หน่อยเรียกสติรัฐบาล ชะลอผลักดัน 'กาสิโน' ถึงเวลาตั้งรับเกมรุกสหรัฐฯ

เจ๊หน่อยเรียกสติรัฐบาล ชะลอผลักดัน 'กาสิโน' ถึงเวลาตั้งรับเกมรุกสหรัฐฯ

อีกไม่กี่อึดใจสภาผู้แทนราษฎรจะได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายที่ตั้งคำถามว่ารัฐบาลมีเหตุผลและความจำเป็นอะไร ถึงได้เร่งผลักดันร่างกฎหมายที่มีปัญหามากขนาดนี้ ทั้งๆที่เวลานี้ประเทศไทยมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไขปัญหามากกว่า โดยในเรื่องนี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความคิดเห็นว่า วันนี้ 2 เมษายน เป็นวัน Liberation Day หรือ“วันปลดแอกสหรัฐอเมริกา” โดย ประธานาธิบดีTrump จะขึ้นภาษีนำเข้ากับ 15 ประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐ 10-20% โดยเรียกว่ากลุ่ม #Dirty15 ซึ่งไทยติดอันดับที่ 10 ที่ได้ดุลการค้าสหรัฐฯสูงถึง 46,000 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่เห็นการดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังจากรัฐบาลไทย เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่จะซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยอย่างหนักในอนาคตอันใกล้ ที่นายกฯควรจะตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาทางเศรษฐกิจ และควร เตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทันทีที่ประธานาธิบดีทรัมท์ประกาศ

สิ่งที่ควรเร่งดำเนินการก็คือนายกควรลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเองเหมือน อย่างเช่นนายกอินเดีย ญี่ปุ่น และเวียดนาม เขาลงมาดูแลเรื่องสำคัญนี้เอง และดำเนินการเจรจากับสหรัฐไปแล้ว หรืออย่างน้อยควรตั้งคณะทำงานพิเศษ Special Task Force ที่ได้รับมอบอำนาจเต็มจากนายก โดยมอบรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจดำเนินการแทนนายกเพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหานี้ เพราะเกี่ยวพันกับหน่วยงานหลายกระทรวง ไม่ใช่ตั้งเพียงปลัดกระทรวงพาณิชย์มารับผิดชอบ ซึ่งจะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบราชการไทย ที่แต่ละกระทรวง ไม่ร่วมทำงานกันเป็นทีม

นักเศรษฐศาสตร์ได้วิเคราะห์ว่าผลกระทบที่เกิดกับเศรษฐกิจไทย แบบรุนแรงน้อยสุด คือสหรัฐขึ้นภาษีแค่ 10% เราก็ก็จะเสียหายมากกว่า 100,000 ล้านบาททันที ซึ่งยังไม่นับความสูญเสียในระยะยาว ที่จะทำให้ผู้ส่งออกต้องเผชิญต้นทุนในการส่งสินค้าไปขายยังสหรัฐสูงขึ้น จนประเทศไทยจะสูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน และอาจจะกระทบ GDP ที่อาจจะลดลงถึงเกือบ 1% เราคาดว่ามูลค่าส่งออกในปี 2568 คาดว่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท โดยมีประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดก็คือสหรัฐอเมริกา ที่มีสัดส่วนสูงถึง18%

"ดิฉันขอวิงวอนให้ท่านนายก ได้แบ่งเวลาจากความสนใจแต่เรื่อง Entertainment Complex ที่มีแต่จะทำร้ายประเทศไทยในอนาคต ได้หันมาใส่ใจกับปัญหานี้อย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญปัญหาเพียงลำพัง ทำให้การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ อยู่บนความเสี่ยง ในขณะที่ต้นทุนของผู้ประกอบการต้องเพิ่มขึ้น จากกำแพงภาษี ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจโดยตรง รวมทั้งความสามารถในการแข่งขันของไทยบนเวทีโลกจะลดลง"

มาตรการที่สหรัฐกำลังจะบังคับใช้ จะไม่เพียงแต่เพิ่มต้นทุนให้กับผู้ส่งออกไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้บริษัทไทยต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน โดยอาจต้องลดกำลังการผลิต ลดการจ้างงาน หรือแม้แต่ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่า นี่เป็นความเสี่ยงที่รัฐบาลต้องตระหนักและหาทางรับมือ ไม่ใช่ปล่อยให้ภาคเอกชนต้องเผชิญปัญหานี้เพียงลำพัง

ในทางกลับกัน การพิจารณากฎหมาย Entertainment Complex เป็นเรื่องที่สามารถรอได้ เพราะไม่ใช่ปัญหาที่กระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในทันที ในขณะที่มาตรการของสหรัฐกำลังจะเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว และหากไม่มีการเจรจาหรือออกมาตรการรองรับอย่างทันท่วงที ผลเสียจะเกิดขึ้นในระดับมหภาคอย่างเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้น รัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการรับมือมาตรการทางการค้าของสหรัฐเป็นอันดับแรก และใช้เวทีสภาในการพิจารณาหาทางออก เพื่อสร้างมาตรการเชิงรุกในการปกป้องผู้ประกอบการไทยจากผลกระทบดังกล่าว ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้

"ฝากท่านนายกได้พิจารณาว่าอะไรเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนกว่ากัน ที่จะให้สภาพิจารณา ระหว่างการทำบ่อนคาสิโน กับการเร่งหามาตรการรับมือกับนโยบายของทรัมท์2.0 ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้แล้ว"