ส่องข้อมูลบริษัทจีน ร่วมสร้างตึก สตง.บอกเลยไม่ธรรมดา

ส่องข้อมูลบริษัทจีน ร่วมสร้างตึก สตง.บอกเลยไม่ธรรมดา

ประเด็นเรื่องการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่เพิ่งถล่มไปเพราะเหตุแผ่นดินไหวนั้นกำลังมีการถูกขุดคุ้ยเป็นระยะ ล่าสุดบริษัท China Railway No.10 Engineering Group ซึ่งได้ร่วมก่อสร้างเป็นการร่วมมือกันระหว่าง "บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ปรากฎว่าในส่วนของบริษัทจีนกำลังถูกเปิดเผยข้อมูลสำคัญหลายประการ

เพจ CSI LA ระบุว่า นายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 40.80% บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) แต่ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับธุรกิจก่อสร้างโดยตรง จากข้อมูลที่ตรวจสอบได้ บริษัทต่างๆ ที่นายโสภณถือหุ้นอยู่ไม่ได้เน้นธุรกิจก่อสร้างเป็นหลัก เช่น เทคโนโลยี นำเข้า-ส่งออก หรือค้าสินค้า แต่กลับเข้ามามีบทบาทใหญ่ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น อาคารราชการ หากไม่มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญจริง อาจเกิดคำถามว่าเป็นเพียง “นอมินี”

เพจดังกล่าว ยังให้ข้อมูลอีกว่า บริษัทที่ “โสภณ มีชัย” ทำงานให้ไม่ธรรมดา หุ้นส่วนกับทุนจีนมีทุนมากพอจะประมูลงานก่อสร้างรัฐหลายพันล้านบาท ปี 2566 “นายพลยศพลเอก” ท่านหนึ่ง เดินทางมาที่ออฟฟิศของบริษัทนี้…แล้ว “ยิงตัวตาย” ภายในสำนักงาน

สำหรับกรณีนายพลคนดังกล่าวที่ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองนั้น พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 66 ปีขณะนั้น เหตุเกิดภายในบริษัทนำเข้าและส่งออกยางรถยนต์ เลขที่ 493 ซอยพุทธบูชา 44 แยกย่อยซอยที่ 11 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ลักษณะเป็นอาคาร สูง 4 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องประชุมชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากสภาพแวดล้อมภายในสถานที่ดังกล่าวแล้ว และตรวจสอบจากอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ พบเป็นปืนลักษณะเป็นปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 สีดำ พบลูกกระสุนอยู่ในรังเพลิง 6 นัด ใช้ยิงไปแล้ว 1 นัด จึงนำเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี แต่ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการลงมือในครั้งนี้

ดังนั้น ต้องรอดูกันต่อไปว่าเมื่อหน่วยงานที่เคยทำแต่หน้าที่ตรวจสอบคนอื่นมาตลอด พอมาถึงคราวที่ตัวเองโดนตรวจสอบบ้างจะมีคำอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสังคมอย่างไร หรือจะแค่หากลยุทธ์มายื้อเพื่อซื้อเวลาไปเรื่อยๆเท่านั้น