ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ไปฝากขัง ข้อหาสมคบกันฟอกเงินฯ หลังพบมีส่วนเกี่ยวข้องเว็บพนันหลายคดี จากการสอบปาคคำยังคงให้การภาคเสธ
วันนี้ (28 มี.ค.) ตำรวจ บช.สอท. คุมตัวนายเอกชาติ มีพร้อม หรือ “เอ็ม เอกชาติ” อินฟลูเอนเซอร์สายรถแข่ง พร้อมพวกรวม 6 คน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินฯ โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวนายเอ็มขึ้นรถควบคุม สื่อมวลชนพยายามสอบถามนายเอ็ม ว่า ถูกตำรวจกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายเอ็มยืนยันว่า ตัวเองบริสุทธิ์มาตลอด มีอาชีพทำสวนทุเรียน ถึงแม้จะจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็ตามแต่ก็เป็นเสาหลักให้ครบครัว แต่วันนี้ถูกตำรวจจับกุม เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องโกหกหรือไม่ แต่นายเอ็มเลือกจะไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน และถูกคุมตัวออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า จากจุดเริ่มต้นคดีคลิปทำร้ายร่างกาย “แบงค์ เลสเตอร์” ก็ได้มีการขยายผลเรื่อยมาจนไปถึงตัวนายเอกชาติ และพบว่า นายเอกชาติมีพฤติการณ์แปะลิงก์เว็บพนัน เมื่อตรวจสอบลึกลงไปก็พบว่า มีความเกี่ยวพันกับจำเลยคดีฟอกเงินเว็บพนันเครือข่าย “อั้ม ภูมิพัฒน์” และ “แยม ธมลพรรณ์” อดีตนักแสดงสาว มาก่อน เคยถูก ปปง. ดำเนินคดีเรื่องการฟอกเงิน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคดีของ “กอล์ฟ เอสคาร์” และ “เจนวิทย์”
จนในที่สุดตำรวจก็ขอออกหมายจับนายเอกชาติ กับบุคคลใกล้ชิดรวม 6 หมายจับ และเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเอกชาติที่จังหวัดจันทบุรี และบ้านพักอีกแห่งที่จังหวัดระยอง ยึดทรัพย์ได้กว่า 120 รายการ ทั้งรถยนต์ Porsche Panamera 4 รถยนต์หรูอีกหลายคัน รถจักรยานยนต์ 16 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องประดับ พระเครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร เงินสดอีกเกือบ 1.5 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินประเภทบ้านและรถที่ไม่ปรากฎทางทะเบียน ที่ตำรวจกำลังสืบทรัพย์ต่อไป รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่านายเอกชาติ เป็นผู้รับผลประโยชน์จากเว็บพนัน และเป็นขบวนการฟอกเงิน มีเส้นทางการเงินจากเว็บพนันโอนผ่านบัญชีม้าหลายบัญชี ก่อนจะโอนเข้ามายังบัญชีธนาคารของคนรับใช้นายเอกชาติ มากกว่า 30 ล้านบาท ทั้งที่ปกติแล้วคนรับใช้จะได้เงินเดือน เดือนละ 15,000 บาทเท่านั้น จากนั้นเงินเหล่านี้ก็ถูกนำไปแปลงเป็นทรัพย์สินต่างๆ ซื้อรถยนต์ ซื้อทรัพย์สินมีค่า ก่อสร้างอาคาร ทำธุรกิจ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลสืบทรัพย์เพิ่มเติม
รวมไปถึงขยายผลว่า นอกจากเว็บพนันแล้ว มีการฟอกเงินจากการกระทำความผิดอื่นๆ อีกหรือไม่ เพราะนายเอกชาติมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลคดีเครือข่ายเว็บพนันและขบวนการฟอกเงินในอดีตหลายคดี ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่านายเอกชาติ ร่วมกระทำความผิดกับบุคคลเหล่านี้หรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่รู้จักคบค้าสมาคมกัน แต่ทั้งนี้จากการสอบสวนนายเอกชาติยังคงให้การภาคเสธ โดยรับเพียงว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของตนเอง แต่ไม่สามารถชี้แจงที่มาทรัพย์สินได้ และปฏิเสธข้อกล่าวหา ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์
อย่างไรก็ตามจากการที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ก็พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงหลายอย่าง และพบทรัพย์สินของกลางจำนวนมาก ทรัพย์สินบางส่วนถูกนำไปฝากกับบุคคลอีกหลายท่าน ดังนั้นขอให้บุคคลที่รับฝากทรัพย์สินเหล่านี้รีบมาแสดงความบริสุทธิ์ แสดงตัวกับตำรวจไซเบอร์ มิฉะนั้นหากตำรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย