xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ผ่านร่าง "เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" จ่อส่งสภาฯ ม็อบเดินหน้าขับไล่รัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ที่ประชุม ครม.มีมติผ่านร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เตรียมส่งสภาฯ พิจารณา หลังกฤษฎีกาแก้ไขให้คนไทยมีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้าน ถึงจะเข้าไปเล่นได้ ด้านกลุ่ม คปท. ยกระดับขับไล่รัฐบาล ย้ำมอมเมาทำลายศักดิ์ศรี

วันนี้ (27 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ หลังจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ครม. อนุมัติหลักการร่างที่จัดทำโดยกระทรวงการคลัง และให้ส่งกฤษฎีกาตรวจพิจารณานั้น ยังคงมีหลักการตามที่ ครม. อนุมัติไว้ แต่ได้แก้ไขเพิ่มเติม คือ กำหนดให้นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน จากเดิมกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายฯ ในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม. เช่น เสนอแนะนโยบาย หรือการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจ เพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม. แก้ไขกลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการ โดยให้คณะกรรมการนโยบายเป็นคนแต่งตั้ง จากเดิมคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ ครม. กำหนดกรอบนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่คณะกรรมการนโยบายเสนอแนะต่อ ครม.อย่างน้อยต้องประกอบด้วย

1. การกำหนดจำนวนใบอนุญาต

2. พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร

3. หลักเกณฑ์การพิจารณาร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน

4. มาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

5. กำหนดเพิ่มเติมให้พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย

และที่กำหนดใหม่ คือ 6. ให้กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน โดยเฉพาะสถานที่จัดให้มีการเล่นพนันซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน

7. กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างและใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีกาสิโนเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

8. กำหนดให้คณะกรรมการนโยบาย กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโนโดยต้องมีการจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน ระบบควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน (จากเดิมไม่มี)

9. กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทย ซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโน ต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด จากเดิมกำหนดห้ามเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่คณะกรรมการกำหนด

10. ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน

11. เพิ่มเติมมาตรการปรับเป็นพินัย เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนด และปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน

12. เพิ่มเติมลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา เช่น การจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มาแล้ว 3 ครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา โดยครั้งที่ 4 ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ถึง 14 มี.ค. 2568 รวมเวลา 15 วันมีผู้แสดงความคิดเห็น 71,289 คน มีผู้เห็นด้วยร้อยละ 80 จำนวน 57,000 คน โดยได้นำความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุม ที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้มีความเหมาะสม การกำหนดผู้รักษาการร่วมตามร่าง พ.ร.บ.ฯ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การพิจารณาความคุ้มค่าในการจัดตั้งสำนักงานกำกับสถานบันเทิงครบวงจร ความยืดหยุ่นในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ความเหมาะสมขององค์ประกอบคณะกรรมการบริหาร การบูรณาการประสานงานระหว่างหน่วยงาน และการสร้างการรับรู้ต่อสังคมในวงกว้างต่อไป

ทั้งนี้ที่ ประชุม ครม.ได้เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป เพิ่อพิจารณาในวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา และแปรญัตติภายในระยะเวลาที่สภาฯ กำหนด ยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนส่งเสริมในส่วนของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหลัก โดยจะไม่เน้นเรื่องคาสิโนที่มีอยู่เพียงแค่ 10% และจะดำเนินการตามพรบ. อย่างเคร่งครัด


อีกด้านหนึ่งที่ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน พร้อมด้วยเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกลุ่มกองทัพธรรม นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล, นายนัสเซอร์ ยีหมะ, นายอานนท์ กลิ่นแก้ว, นายใจเพชร กล้าจน หรือหมอเขียว, นายใหม่เสมอ จนสุขสำราญ และนางกรองแก้ว วัฒนะกุล จัดการชุมนุมเพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โดยมีมวลชนที่เดินทางมาจากภาคใต้ และอีกหลายจังหวัด ได้เดินขบวนเข้ามาสมทบกับกลุ่มไม่เอาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงประเด็นการขับเคลื่อนเรื่องการคัดค้านคาสิโนและการพนันออนไลน์ ตอนหนึ่งว่า ตามที่รัฐบาลนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งดำเนินนโยบายพนันออนไลน์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่รวมกาสิโนเข้าไปด้วย ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร พ่อของนายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้กล่าวนำในนโยบายนี้มาก่อน โดยที่รัฐบาลไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา หรือแม้แต่ไม่ใช่นโยบายที่หาเสียงไปเลือกตั้ง เท่ากับเป็นการบังคับให้ประชาชนยอมรับในวาระอื่นที่อาจมีการซ่อนเร้น แอบแฝงของรัฐบาล

การเร่งผลักดันอบายมุข เท่ากับเป็นการสร้างสิ่งมอมเมาให้ประชาชน ซึ่งตรงกันข้ามกับการสร้างคุณภาพชีวิต ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เราไม่เห็นว่าการที่ประเทศไทยมีการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือจะมีกาสิโน จะทำให้ประชาชนชาวไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตามคำประกาศหาเสียงของนายกรัฐมนตรีตรงไหน ตรงกันข้ามการติดพนันออนไลน์ เข้ากาสิโน มีแต่จะทำลายเกียรติ ทำลายศักดิ์ศรี ระบบนี้หมดตัว ไม่มีกิน ไม่มีใช้ ไร้บ้านอาศัยมากกว่า ทางกลุ่มจึงจำเป็นที่จะขับไล่รัฐบาลต่อไป

ต่อมาเวลา 11.25 น. นายพิชิต ได้อ่านแถลงการณ์ จากนั้นได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยมี นายตรี อัญชลีสังกาศ ที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ พร้อมด้วย นายเอกพร รักความสุข กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง เป็นผู้แทนรับเรื่องไว้ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น