xs
xsm
sm
md
lg

“สว.สำรอง” ร้อง กมธ.ป.ป.ช.สภาผู้แทนฯ สอบ “กกต.-แสวง บุญมี” อิดออดปมฮั้วเลือกตั้ง สว.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สว.สำรอง ร้อง กมธ.ป.ป.ช. สอบการทำหน้าที่ ‘กกต.-แสวง’ ปม ‘ฮั้วเลือก สว.’ เหตุมีท่าทีอิดออด-ไม่สื่อสารสองทาง ด้าน ‘ฉลาด’ รับลูก เตรียมส่งข้อมูลให้ อนุฯ กลั่นกรองเรื่องภายใน 2 เม.ย.นี้ ก่อนทำรายงานหาข้อเท็จจริงต่อ

เมื่อเวลา 10.00 น. คณะ สว. สำรอง นำโดยพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ยื่นหนังสือถึงนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ. ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายแสวงบุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานปฎิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่งผลให้การเลือก สว.เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

โดย นายฉลาด กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรบ และคณะ เป็นผู้ที่มีความสนใจต่อปัญหาประเทศชาติ โดยการอาสาเข้ามาทำหน้าที่ แต่ตามข้อบังคับและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งและสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งกำลังมีปัญหาอยู่นั้น ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อประชาชนและผู้สมัครว่าเหตุใดการสรรหาของ กกต. ที่อ้างว่าทำตามกฎหมาย ไม่เป็นไปตามความสุจริตและเที่ยงธรรม จึงเข้ามายื่นเรื่องถึง กมธ.ป.ป.ช. แม้เราจะไม่มีอำนาจในการลงโทษบุคคลใด แต่เราจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงตามข้อบังคับ และเมื่อได้ความอย่างไรแล้ว จะนำส่งรายงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายฉลาด กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีการมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการฯ กลั่นกรอง ภายในวันที่ 2 เมษายนนี้ว่าเกี่ยวเนื่องกับอำนาจของกมธ.ป.ป.ช.หรือไม่ หากเกี่ยวเนื่องก็จะมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงให้เกิดความกระจ่างต่อทุกคนว่าเป็นไปตามความคาดหวังหรือไม่ ทั้งนี้ กมธ..ป.ป.ช.ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน และจะทำให้ทันตามกำหนดเวลาที่มีอยู่ เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นอยู่แล้ว หากยังขาดตกบกพร่องในส่วนไหนก็จะขอเพิ่มเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่ากระบวนการของประเทศไทยยังอยู่ภายใต้กฎหมาย และอาจจะใช้เวลาในช่วงการปิดสมัยประชุมสภาเพื่อดำเนินการตามมติ

ด้าน พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการกระทำการโดยมิชอบ หรือทุจริตในการเลือก สว.ครั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กกต.และนายแสวง ได้รับแจ้งว่าจะมีการนำโพยที่ส่อทุจริต เข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำการแก้ไข จึงเป็นเหตุให้คนส่วนหนึ่งนำโพยดังกล่าวเข้าไปใช้ จนทำให้เกิดความไม่สุจริตเที่ยงธรรมตามมาหลายประการ และพวกตนก็ได้ใช้สิทธิ์ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 61 ในการร้องเรียนและคัดค้าน บอกตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการเลือก และมีการนำพยานหลักฐานเอกสารรวมถึงพยานบุคคล ไปให้ กกต.มาอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่า 8 เดือนที่ผ่านมา การดำเนินการของ กกต.ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลย มีเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้อ้างว่ามีการฟ้องและเพิกถอน

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ เราก็ได้พยายามติดตามอย่างต่อเนื่อง และยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ นอกจากคำว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ จนกระทั่งเราได้ไปร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเราทราบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา ซึ่งเมื่อเรามีการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า มีความเกี่ยวพันกับคดีอาญาที่เกี่ยวกับเรื่องอั้งยี่ ตั้งแต่กระบวนการแรกก่อนที่จะมีการจับกลุ่มนำประชาชนมาสมัคร ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้มีการดำเนินการ จนรับสำนวนคดีนี้เป็นคดีพิเศษ โดยใช้เรื่องการฟอกเงินเป็นคดีพื้นฐาน ขณะนี้ทราบว่า กกต.ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบสวน ในเรื่องส่วนที่เป็นความผิดของการเลือกตั้ง

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า แต่เหตุที่ตนจำเป็นต้องมาในวันนี้ คือแม้ กกต. จะมีการดำเนินการในภายหลังแล้ว ก็ยังมีทีท่าอิดออด ไม่พยายามดำเนินการตามกฎหมายที่มี เมื่อเราพยายามทวงถาม และแนะนำกระบวนการทำงาน กลับไม่ได้รับการสื่อสารสองทาง แต่อย่างใดเลย จึงใช้ช่องทางนี้ หาความจริงให้ปรากฏอีกส่วนหนึ่ง ว่า กกต.ทั้งองค์กร ไม่แข็งขันเท่าที่ควร ไม่ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ ฉะนั้น เวลาที่เหลืออยู่อีกแค่ 3 เดือนนี้ ซึ่งยังเหลือเรื่องใหญ่ๆ อีกมาก กกต.ก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนพอ เราจึงหวั่นเกรงว่า จะทำให้เกิดความเสียหายในภาพรวม จึงหวังว่ากมธ.ป.ป.ช.จะเป็นที่พึ่ง และกระตุ้นให้ กกต.กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น