xs
xsm
sm
md
lg

กลัวจริงๆหรือแค่ปลุกผี?!? ข่าวกรองมะกันระบุ จีน ‘ภัยคุกคามอันดับหนึ่งทางทหาร-ไซเบอร์’ เร่งเพิ่มสมรรถนะล้ำยุคในการยึดไต้หวัน มุ่งแซงแย่งแชมป์AIจากสหรัฐฯใน5ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


บรรยายกาศภายในห้องประชุม ขณะคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดการรับฟังรายงาน “การประเมินภัยคุกคามประจำปี” ของประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ณ อาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร (25 มี.ค.)
รายงานข่าวกรองอเมริกาฉบับปีล่าสุดระบุ จีนยังคงเป็นภัยคุกคามทางทหารและไซเบอร์อันดับหนึ่ง อีกทั้งมีแสนยานุภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ไม่สม่ำเสมอ ในเรื่องสมรรถนะสำหรับการเข้ายึดไต้หวัน โดยรวมถึงการป้องปราม หรือกระทั่งเอาชนะการแทรกแซงทางทหารของอเมริกาถ้าจำเป็น นอกจากนั้นปักกิ่งยังเล็งขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านเอไอแทนที่วอชิงตันภายในปี 2030

รายงาน “การประเมินภัยคุกคามประจำปี” (Annual Threat Assessment) ฉบับปีล่าสุด ที่ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงพวกหน่วยงานด้านการข่าวกรองทั้งหมดของสหรัฐฯ จัดทำขึ้นและนำออกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (25 มี.ค.) มุ่งนำเสนอภาพรวมของข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมโดยบรรดาหน่วยงานข่าวกรองระดับสูงของอเมริกา เกี่ยวกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของอเมริกาที่เกิดจากต่างชาติตลอดจนพวกองค์กรอาชญากรรม

ในรายงานล่าสุดนี้ซึ่งเผยแพร่ออกมาก่อนที่พวกผู้นำประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ไปให้ปากคำแก่คณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาในวันเดียวกัน ระบุว่า จีนยังคงมีความสามารถในการโจมตีอเมริกาด้วยอาวุธตามแบบแผน (conventional weapons หมายถึงพวกอาวุธที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์) ก่อกวนโครงสร้างพื้นฐานของอเมริกาด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ และเล็งเป้าหมายโจมตีผลประโยชน์ของอเมริกาในอวกาศ

โดยที่กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) มีแนวโน้มวางแผนใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทางปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในการสร้างข่าวปลอมและตัวตนปลอม และโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงต่อคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวในวันอังคารว่า จีนยังคงเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพที่สุด โดยกองทัพจีนกำลังนำมาสมรรถนะระดับล้ำยุคเข้ามาใช้ เป็นต้นว่า อาวุธระดับไฮเปอร์โซนิก (ความเร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่าตัวขึ้นไป) เครื่องบินหลีกเร้นการตรวจจับของเรดาร์ เรือดำน้ำระดับล้ำยุค ทรัพยากรในการทำสงครามอวกาศและสงครามไซเบอร์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ขึ้น

ขณะที่รายงานฉบับนี้สำทับว่า เกือบแน่นอนแล้วว่า จีนมียุทธศาสตร์ระดับชาติหลายแง่มุมซึ่งวางแผนขึ้นมา ด้วยจุดหมุ่งหมายในการแทนที่อเมริกาในฐานะมหาอำนาจด้านเอไอที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกภายในปี 2030

นอกจากนั้นยังเตือนว่า ปักกิ่งจะขยายกิจกรรมซึ่งมีอิทธิพลที่เป็นอันตรายเพื่อทำให้อเมริกาอ่อนแอลงทั้งภายในประเทศและทั่วโลก รวมทั้งพยายามต่อต้าน “การรณรงค์ที่นำโดยอเมริกา ซึ่งมีเป้าหมายในการทำให้ความสัมพันธ์ของจีนกับทั่วโลกมัวหมองลงและโค่นล้ม” พรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานฉบับนี้ระบุ

รายงานบอกอีกว่า จีนเป็นภัยคุกคามที่ครอบคลุมและแข็งแกร่งที่สุดต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี จีน “ระมัดระวัง” มากกว่ารัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ โดยจะไม่แสดงออกก้าวร้าวหรือก่อกวนเกินไป

ทั้งนี้ รายงานกล่าวว่า คณะผู้นำจีนจะแสวงหาหนทางที่จะลดความตึงเครียดซึ่งมีอยู่กับสหรัฐฯ ในขณะที่จีนแสวงหาหนทางในการ “ปกป้องบรรดาผลประโยชน์แกนกลางของตน และซื้อเวลาเพื่อทำให้ฐานะของตนแข็งแกร่งมากขึ้น”

ความกังวลของอเมริกาที่มีต่อจีน เป็นประเด็นครอบคลุมเนื้อหาถึง 1 ใน 3 ของรายงานความยาว 33 หน้าฉบับนี้ ซึ่งมีการระบุถึงเรื่องไต้หวันว่า จีนเตรียมเพิ่มมาตรการบีบบังคับทางการทหารและเศรษฐกิจต่อไต้หวัน และกองทัพปลดแอกประชาชนจีนอาจมีแสนยานุภาพเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงแม้ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการเข้ายึดไต้หวัน ตลอดจนในการป้องปรามหรือเอาชนะการแทรกแซงทางทหารของอเมริกาถ้าจำเป็น

นอกจากนี้แล้ว หน่วยงานด้านข่าวกรองของอเมริกายังระบุว่า เป้าหมายระยะยาวของจีนคือการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในกรีนแลนด์เพื่อใช้เป็น “ที่มั่นสำคัญทางยุทธศาสตร์” ในอาร์กติก

ทั้งนี้ ในขณะนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้แก่เดนมาร์กที่เป็นพันธมิตรรายหนึ่งในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จากการย้ำข้อเรียกร้องในการเข้ายึดกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของเดนมาร์ก โดยอ้างจุดประสงค์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา โดยที่ล่าสุด รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ พร้อมภรรยา มีกำหนดเดินทางไปยังกรีนแลนด์ปลายสัปดาห์นี้ พร้อมกับคณะตัวแทนระดับสูงของอเมริกา

อย่างไรก็ดี รายงานฉบับนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า จีนเผชิญความท้าทาย “ที่น่ากลัว” ภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงปัญหาการทุจริต ความไม่สมดุลด้านประชากร ปัญหาทางการคลังและเศรษฐกิจที่อาจบ่อนทำลายความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์

รายงานคาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอาจชะลอตัวต่อไปเนื่องจากมีการบริโภคต่ำ และนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่จีนยังต้องเตรียมพร้อมรับแรงเสียดทานทางเศรษฐกิจจากอเมริกา

นอกจากจีนแล้ว รายงานฉบับนี้ยังวิเคราะห์ภัยคุกคามจากรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน และแก๊งอาชญากรข้ามชาติที่รวมถึงแก๊งค้ายาเสพติดในเม็กซิโก และกลุ่มอิสลามสุดโต่ง โดยระบุว่า รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือจะพยายามท้าทายอเมริกาด้วยปฏิบัติการที่มีการวางแผนไว้เพื่อสร้างความได้เปรียบ และการทำสงครามของรัสเซียในยูเครนถือเป็นบทเรียนที่ดีมากเกี่ยวกับการต่อสู้กับอาวุธและข่าวกรองของตะวันตกในสงครามขนาดใหญ่

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น