xs
xsm
sm
md
lg

วอนขนส่งต่อลมหายใจรถโดยสารคอกหมู เผยสิ้นปี 68 “สายบ้านกง-พิด’โลก” สูญพันธุ์แน่นอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สุโขทัย - เผยสิ้นปี 68 “สายบ้านกง-พิดโลก” ส่อสูญพันธุ์-ไม่เหลือรถคอกหมูวิ่งแม้แต่คันเดียว ด้านขนส่งแจงอายุใช้งานโครงแชชซี เพื่อความปลอดภัย เผยถ้าไม่ถึงไม่ถึง 40 ปี ก็วิ่งได้ปกติ แต่ถ้าเกิน ต้องจดเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง , รถโดยสารส่วนบุคคล , รถโดยสารประจำทางในเส้นทางหมวด 1 และรถบรรทุกส่วนบุคคล


วันนี้(25 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีกรมขนส่งฯได้มีการแจ้งยกเลิกการต่อทะเบียนให้กับรถโดยสารคอกหมู หรือรถสองแถวไม้ ที่เป็น Soft Power และเอกลักษณ์ของ จ.สุโขทัย มายาวนานถึง 88 ปี เนื่องจากมีอายุการใช้งานของโครงแชชซีเกิน 40 ปี ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ จนกลายเป็นประเด็นร้อน และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น

ล่าสุด นางประทุม ฮุยเขียว อายุ 60 ปี เจ้าของรถโดยสารคอกหมู (สายกงไกรลาศ-พิษณุโลก) บอกว่า ในเดือนมีนาคม 2568 เฉพาะที่อำเภอกงไกรลาศมีรถคอกหมู 4 คัน ที่ไม่สามารถต่อทะเบียนได้ และเดือนกันยายนก็มีจ่ออีก 5 คัน ส่วนรถของตนกับพวกรวม 9 คัน โครงแชชซีจะหมดอายุการใช้งานในเดือนธันวาคม 2568 ยังไม่นับรวมรถคอกหมูคันอื่นๆที่อยู่ต่างอำเภอ

ถ้าหากไม่มีมาตรการผ่อนปรน รับรองได้เลยว่า 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป รถโดยสารประจำทาง (รถคอกหมู) สายกงไกรลาศ-พิษณุโลก จะต้องสูญพันธุ์ปิดตำนานถาวรอย่างแน่นอน เพราะทุกคันหมดอายุการใช้งาน ไม่สามารถต่อทะเบียนได้อีก เส้นทางนี้จึงไม่เหลือรถคอกหมูในตำนาน ที่จะสามารถวิ่งให้บริการผู้โดยสารได้อีกต่อไป

ทั้งนี้ ทางกลุ่มรถร่วมบริการ/เจ้าของรถโดยสารคอกหมู (สายกงไกรลาศ-พิษณุโลก) จึงวิงวอนขอความเมตตาจากกรมขนส่งฯ ช่วยออกมาตรการผ่อนปรนให้สามารถต่อทะเบียนรถได้ และยืดอายุต่อไปอีก 10 ปี เพราะหลายคนทำอาชีพนี้อาชีพเดียว ยังต้องแบกภาระเลี้ยงดูคนในครอบครัว ต้องช่วยส่งหลานๆเรียนหนังสือ ถ้าหยุดวิ่งรถโดยสารประจำทางก็ไม่รู้จะไปทำอะไรกิน เด็กๆก็จะไม่ได้ไปเรียน เพราะไม่มีเงินให้

นายสุทธิรักษ์ อายุ 42 ปี ชาว อ.กงไกรลาศ บอกว่า ได้ลาออกจากงานที่กรุงเทพฯ เพื่อมารับช่วงขับรถโดยสารคอกหมูต่อจากพ่อ ปัจจุบันอายุ 80 ปี ไม่มีอาชีพอื่นทำนอกจากขับรถอย่างเดียว หาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมา รายได้หลักมาจากอาชีพนี้ ถ้าไม่วิ่งรถก็ไม่รู้จะไปทำงานอะไร


ด้าน นางวรุณยุพา วิเศษสรรค์ ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก ได้มีการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์อายุการใช้งาน ของรถโดยสารประจำทางที่มีอายุโครงแชชซีเกิน 40 ปี แก่เจ้าของรถโดยสารคอกหมู (สายกงไกรลาศ-พิษณุโลก) พร้อมเตรียมช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ให้ขยายอายุแชชซีออกไปอีกระยะหนึ่ง แต่ต้องรอส่วนกลางอนุมัติก่อน

ขณะที่ นายประเสริฐ สุวรินทร์ธนากุล ขนส่งจังหวัดสุโขทัย ได้แถลงข่าวชี้แจงการต่อทะเบียนรถโดยสารคอกหมู ที่มีอายุการใช้งานของโครงแชชซีเกิน 40 ปี ว่าในการประชุมครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้มีมติอนุมัติให้กำหนดอายุการใช้งานสูงสุดของรถโดยสารประจำทางหมวด 3 และหมวด 4 ส่วนภูมิภาค ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร โครงแชชซีต้องไม่เกิน 40 ปี

โดยให้รถโดยสารประจำทางที่บรรจุในเส้นทาง ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไว้แล้ว ถ้าอายุโครงแชชซีเหลือไม่ถึง 10 ปี หรือมีอายุโครงแชชซีเกินกว่าที่กำหนดให้ใช้งานต่อไปอีก 10 ปี ซึ่งการกำหนดอายุการใช้งานสูงสุดของรถโดยสารประจำทาง ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป ส่งผลให้ในปี 2568 รถโดยสารคอกหมู หรือรถโดยสารสองแถว ในเส้นทางหมวด 3 สายที่ 668 พิษณุโลก-กงไกรลาศ และเส้นทางหมวด 4 จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีอายุการใช้งานของโครงแชชซีเกิน 40 ปี ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถสามารถนำรถมาจดทะเบียนเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง , รถโดยสารส่วนบุคคล , รถโดยสารประจำทางในเส้นทางหมวด 1 ซึ่งต้องมีอายุการใช้งานของโครงแชชซีไม่เกิน 50 ปี และรถบรรทุกส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 หรือนำรถโดยสารคอกหมูที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม มาจดทะเบียนเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ต่อไปได้

ทั้งนี้ การกำหนดอายุการใช้งานของโครงแชชซีรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางได้รับความปลอดภัยในการเดินทาง และเป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางต่อไป

สำหรับรถโดยสารที่มีอายุโครงแชชซีไม่ถึง 40 ปี ยังคงสามารถให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ในการเดินทางได้ปกติ


กำลังโหลดความคิดเห็น