xs
xsm
sm
md
lg

แพทองธารโต้หนีภาษี จินตนาการมากไป มั่นใจเสียภาษีให้รัฐมากกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นายกรัฐมนตรีตอบโต้ฝ่ายค้าน ซักฟอกเรื่องตั๋วสัญญาใช้เงิน 9 ฉบับ ชำระค่าหุ้นให้แม่ พี่น้อง เครือญาติ อ้างภาษีคนละหมวด กล่าวหาหนีภาษีไม่จริง มั่นใจจ่ายภาษีให้รัฐมากกว่า อ้างตอนนั้นไม่พร้อมจ่ายเงินสด ระบุในบัญชีทรัพย์สินแล้ว คุยกันแล้วว่าจะจ่ายภายในปีหน้า ด้านวิโรจน์ซัดกลับ เสียมากเสียน้อยไม่สำคัญ แต่หาเทคนิคหลบเลี่ยงต่างหากที่น่ารังเกียจ

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายกล่าวหาว่า หลบเลี่ยงภาษีการรับให้ ตั้งแต่ปี 2559 โดยใช้นิติกรรมอำพรางผ่านตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) 9 ฉบับ ในการซื้อขายหุ้นจากครอบครัว ระบุว่า ผู้อภิปรายสำคัญผิดในข้อเท็จจริง ใช่สำนวนโวหารเพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เอาภาษีคนละหมวดมาอธิบายให้เกิดความสับสน ตนขอยืนยันเจตนาและการปฎิบัติที่ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ถูกต้องตามกระบวนการ ตามข้อกฎหมายทุกอย่าง

"การที่จะกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีคนนี้หนีภาษี ไม่ได้เป็นความจริงเลย จริงๆ แล้วเป็นเรื่องตรงกันข้าม เพราะถึงแม้ดิฉันจะอายุน้อยกว่าท่าน ดิฉันมั่นใจว่าเสียภาษีให้รัฐมากกว่าท่านแน่นอน" น.ส.แพทองธาร กล่าว

ทั้งนี้ การทำธุรกรรมเรื่องหุ้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 ก่อนเข้าสู่การเมืองหลายปี เป็นความตั้งใจในการปรับโครงสร้างการถือหุ้นบริษัทฯ โดยการซื้อขายผ่านตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นหนังสือที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เงินอีกจำนวนหนึ่งให้กับบุคคลหนึ่งตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ หนังสือดังกล่าวติดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย การซื้อขายเช่นนี้บางรายการไม่มีการเสียภาษี เนื่องจากยังไม่มีการชำระเงิน จึงยังไม่ทราบจำนวนและเสียภาษีไม่ได้ จึงเป็นภาระหนี้สินระหว่างตนในฐานะผู้ซื้อ และครอบครัวซึ่งเป็นผู้ขาย เป็นเรื่องชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นนิติกรรมอำพรางใดๆ เพราะถ้าจะเกิดการซื้อขายหรือใดๆ ก็ตาม ยอดหนี้ก็ต้องแสดงในบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว ซึ่งได้ยื่นไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หมดแล้ว ตรวจสอบได้เช่นกัน

การทำตั๋วสัญญาใช้เงินหรือการปรับโครงสร้างไม่ใช่เรื่องใหม่ ทำกันมาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ลองถามสมาชิกที่เป็นฝ่ายค้านว่ามีใครทำธุรกิจแบบนี้ไหม ถ้ามีก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่กล่าวหาว่าจะกลายเป็นแหล่งทุจริตนั้น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะออกตั๋วสัญญาใช้เงิน ขบวนการค้ายาเสพติดจะออกตั๋วให้กัน เห็นว่าเป็นเรื่องจินตนาการมากไป เพราะเป็นการทำธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ดำเนินการโดยเปิดเผย ฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายรับภาระหนี้สินระหว่างกัน ไม่มีการกระทำนอกกฎหมายใดๆ เพราะหากระบุที่มาของเงินไม่ได้ก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งเป็นการดำเนินการทางธุรกิจอย่างเปิดเผย ไม่สามารถลักลอบทำได้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องล้วนแล้วแต่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว

ส่วนการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น จำเป็นต้องใช้การซื้อขาย แต่ตอนนั้นตนไม่มีความพร้อมชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงทำตั๋วสัญญาใช้เงินแทน ซึ่งได้แสดงในบัญชีทรัพย์สินฯ ของ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว และได้พูดคุยกับคนในครอบครัวอยู่แล้วว่าเรื่องนี้วางแผนที่จะชำระแล้วด้วย โดยรอบแรกจะเกิดขึ้นภายในปี 2569 ตนและครอบครัวได้ตกลงกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แน่นอนว่าเมื่อการซื้อขายเกิดขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างจะปรากฎในบัญชีทรัพย์สินของตน ป.ป.ช. ตรวจสอบได้เช่นกัน โปร่งใส และเมื่อมีการจ่ายภาษี ยังไงก็หลบการจ่ายภาษีไม่ได้อยู่แล้ว

ด้านนายวิโรจน์ ขอใช้สิทธิพาดพิง กล่าวโดยสรุปว่า เสียภาษีมากน้อยไม่ได้สำคัญ ตราบใดที่ประชาชนทุกคน คนตัวเล็กตัวน้อยเสียภาษีตามที่กฎหมายบัญญัติ เขาถือว่าทำได้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้ว เสียภาษีมาก แต่หาเทคนิคในการหลบเลี่ยง หนีภาษีต่างหากที่น่ารังเกียจ

อ่านประกอบ : ฝ่ายค้านรุมขยี้แพทองธาร หนีภาษีการรับให้ 218 ล้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น