“ เจนนี่ ” อพยพจากจีนไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2557 หลังจากคลอดลูกคนที่สองได้ไม่กี่ปี เพื่อหนีความรุนแรงในครอบครัวและบทลงโทษจากรัฐบาลฐานละเมิดนโยบายลูกคนเดียว
เธอพาลูกสาวคนเล็กไปที่ซานฟรานซิสโก ถึงแม้ไม่มีเอกสารการเข้าประเทศอย่างถูกต้อง แต่เจนนี่ ซึ่งเป็นนามสมมุติ ก็หางานทำได้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง และในที่สุดก็แต่งงานกับพลเมืองอเมริกัน
สามปีผ่านไป หญิงชาวจีนผู้นี้ยังไม่ทราบผลการสมัครขอกรีนการ์ด เนื่องจากความล่าช้าของระบบการประมวลผลวีซ่า แต่เธอก็ไม่เคยกลัวเกี่ยวกับเรื่องสถานะการย้ายถิ่นฐานของตนเองมากนัก จนกระทั่งโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยสัญญาว่าจะดำเนินโครงการเนรเทศหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
เจนนี่เล่าว่า เธอกลัวที่จะไปทำงาน ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เกต หรือแม้แต่พบปะเพื่อน ๆ นอกบ้าน โดยสามีขอร้องว่าถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็อย่าออกนอกบ้าน จนกว่าวีซ่าของเธอจะได้รับการอนุมัติ ผู้อพยพชาวจีนอีกหลายคน ในชุมชนเดียวกับเธอก็มีความกลัวเหมือน ๆ กัน
ในช่วงการหาเสียง ทรัมป์ประกาศเนรเทศคนจีนในวัยเกณฑ์ทหารก่อนเป็นอันดับแรก โดยอ้างว่าคนเหล่านี้กำลังสร้างกองทัพในสหรัฐฯ นักต่อสู้เพื่อสิทธิผู้อพยพชี้ว่าวาทกรรมที่มุ่งเป้าของทรัมป์ทำให้ชุมชนชาวจีนซึมซับความหวาดวิตกมากถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งในหมู่ผู้อพยพที่เพิ่งมาถึงและผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มานานหลายสิบปี
ปัจจุบันผู้อพยพชาวจีนที่ไม่มีเอกสารอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ราว 390,000 คนตามข้อมูลของสถาบันนโยบายการย้ายถิ่นฐาน (Migration Policy Institute) โดยมากกว่า 1 ใน 4 อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และคาดว่าเกือบ 38,000 คนในจำนวนนี้ได้รับคำสั่งสุดท้ายให้เนรเทศออกไป ตามข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา ( US Immigration and Customs Enforcement - Ice) ในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศได้ 2 เดือน ICE ก็เพิ่มการจับกุมทั่วประเทศ บุกตรวจค้นในเมืองใหญ่ๆ ควบคุมตัวผู้คนในร้านอาหาร ธุรกิจในพื้นที่ และสถานที่สาธารณะอื่นๆ ปฏิบัติการของ ICE ไม่เว้นแม้แต่ในเมืองซึ่งถือเป็นสถานหลบภัย เช่น ซานฟรานซิสโกและลอสแองเจลิส
โฮเซ่ อึ้ง ผู้จัดการโครงการสิทธิผู้อพยพประจำองค์การชาวจีนเพื่อการดำเนินการเชิงบวก ( Chinese for Affirmative Action) ในซานฟรานซิสโกกล่าวว่า ได้เปิดสายด่วนสำหรับรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการย้ายถิ่นฐาน โดยในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 40 สายต่อคืน
ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ICE จัดเครื่องบินเช่าเหมาลำ 5 ลำส่งผู้อพยพชาวจีนหลายร้อยคนกลับไปยังจีน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีการเนรเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจีนกล่าวว่ายินดีให้มีการส่งพลเมืองจีนซึ่งได้รับการยืนยันแล้วกลับประเทศ นับเป็นความร่วมมือที่มากกว่าในอดีต
นอกจากนั้น เหตุผลที่พรรครีพับลิกันของทรัมป์ต่อต้านผู้อพยพชาวจีน ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากผู้อพยพชาวจีนที่ข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้ามาในสหรัฐฯ นับวันจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปี 2566 มีจำนวน 35,000 คน เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากปีก่อนหน้า โดยยอมเดินเท้าฝ่าอันตรายข้ามช่องเขาดาริเอนกั้นระหว่างโคลอมเบียกับปานามาเพื่อเข้าเม็กซิโก แตกต่างจากในอดีตที่มักจะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแล้วอยู่เกินกำหนด แต่เมื่อเศรษฐกิจของจีนซบเซาลง การขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ และช่องทางอื่นๆ ตามกฎหมาย ก็ทำได้ยากขึ้น ผู้อพยพจำนวนมากจึงหันมาใช้การข้ามพรมแดนเป็นทางเลือกแทน
ที่มา : เดอะการ์เดียน