บำนาญชราภาพไม่เปลี่ยน 'ประกันสังคม' การันตี สยบดราม่ากลบข่าวฉาว

บำนาญชราภาพไม่เปลี่ยน 'ประกันสังคม' การันตี สยบดราม่ากลบข่าวฉาว

กระทรวงแรงงาน ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสำนักงานประกันสังคม เป็นอีกหน่วยงานที่เรียกได้ว่ามีประเด็นให้ชาวบ้านร้านตลาดวิจารณ์ได้ตลอดแบบไม่มีแผ่ว โดยก่อนหน้านี้นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน ออกเปิดเผยเองว่า สำนักงานประกันสังคมเตรียมพิจารณาขยายอายุการเกิดสิทธิการรับบำนาญชราภาพ จาก 55 ปี เป็น 65 ปี อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยกำลังศึกษาแนวทางขยายอายุเกษียณแบบสมัครใจ คำนึงถึงผลกระทบที่แตกต่างกันของพื้นที่ กลุ่มอาชีพ และกลุ่มรายได้ต่างๆ

พอข่าวออกมาอย่างนี้ ทำให้มีรถทัวร์ไปจอดหน้ากระทรวงแรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในครั้งนี้เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบกับผู้ประกันตนมากเกินไป อีกทั้ง ยังถูกมองว่าเป็นการออกข่าวเพื่อกลบกระแสจากการถูกตรวจสอบเรื่องการใช้เงินประกันสังคมไปซื้ออาคารสำนักงานย่านพระราม 9 หรือไม่

ในเรื่องนี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงทันที โดยระบุว่า นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่า แนวคิดเรื่องการขยายอายุเกษียณ ได้รับการหยิบยกขึ้นหารือในการประชุม SSO Sustainable 2024 ซึ่งเป็นการประชุมวิชาการที่จัดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2567 โดยมีผู้เชี่ยวขาญจากกองทุนบำนาญระดับโลกแลกและองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางรองรับสังคมสูงวัย ทั้งนี้ หลายประเทศได้ปรับอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี เช่น สวีเดน ได้ขยายอายุเกษียณเป็น 67 ปี โดยดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจัยต้านสุขภาพและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ไม่มีผลกระทบต่อสิทธิผู้ประกันตนในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน จะต้องดำเนินการผ่านกระบวนการทางกุฎหมาย ซึ่งรวมถึงการพิจารณาขณาของคณะกรรมการประกันสังคม และต้องได้รับการเห็นจาก สิทธิผู้ประกันตนยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง 1. ผู้ประกันตนที่อายุ 55 ปี และเกษียณหรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน ยังสามารถยื่นขอรับเงินบำนาญ หรือบำเหน็จกรณีชราภาพได้ตามปกติ 2. การขยายอายุผู้ประกันตน เป็นคนละกรณีกับการขยายอายุเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ โดยปัจจุบันได้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม แก้ไขอายุผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จาก 15 - 60 ปี เป็น 15 - 65 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานสูงอายุที่ต้องการทำงานต่อ สามารถอยู่ในระบบประกันสังคมและได้รับสิทสิทธิ ประโยชน์ต่อเนื่อง แต่จะไม่ได้กระทบสิทธิของผู้ที่เกษียณอายุ 55 ปี

สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้ประกันตนเป็นอันดับแรก การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน จะต้องมีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน และรับฟังความคิดเห็น จากทุกฝ่ายก่อนตัดสินใจ สำนักงานประกันสังคม ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจได้ว่าอายุการเกิดสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณี ชราภาพในปัจจุบันยังคงเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง