บิ๊ก กทพ.อ้างเหตุ รับผิดชอบคานถล่ม ลาออกคนตายก็ไม่ฟื้น
เหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ตรงถนนพระราม 2 ครั้งนี้ถือว่ามีเสียงวิจารณ์หนักหน่วงมากกว่าทุกครั้ง เพราะเป็นอีกครั้งที่เกิดเหตุซ้ำซาก แต่เสียงวิจารณ์น่าจะเพิ่มมากขึ้น ภายหลังผู้บริหารระดับสูงของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการอยู่ในตำแหน่งต่อไปด้วยการอ้างว่าการลาออกไม่ได้ทำให้คนเสียชีวิตฟื้นขึ้นมา
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข ผู้ว่าการกทพ. ระบุว่า "ถ้าผมผูกเหล็กเอง ก่อสร้างเอง ก็จะรับผิดชอบ แล้วการที่ผมลาออกก็ไม่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ ผมคิดว่าต้องมาดูว่าผมละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่อย่างไร ผมคิดว่าถ้าลาออกคงต้องลาออกกันทั้งประเทศ หรือทั้งกรม ผมคิดว่าเอาสะใจได้ ผมคิดอย่างนี้ ผมจะเมกชัวร์ว่าผู้ที่ทำงานบกพร่อง หรือประมาทเลินเล่อ ผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรม ผู้ที่ประมาทเลินเล่อก็ต้องชดใช้"
คงต้องรอดูว่างานนี้จะทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทวีความเดือดขึ้นหรือไม่
ขณะที่ ความคืบหน้าในการเร่งกู้คืนพื้นที่การจราจรนั้น ายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จะดำเนินการกู้คืนพื้นที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนสูงสุด ซึ่งช่องทางขาเข้า คาดว่าจะใช้เวลา 7 วันในการเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดเส้นทาง ขณะที่พื้นที่ขาออกซึ่งเป็นส่วนของสะพานในโครงการทางด่วนเฉลิมมหานคร จากที่สำรวจพบว่ามีการทางสัญจรเสียหายไป 1 ช่องจราจร โดยสอบถามจากผู้ว่ากทพ.ได้ความว่า อยู่ระหว่างการหล่อคานสำเร็จรูป เพื่อนำมาติดตั้งและซ่อมแซมทาง คาดว่าจะใช้เวลา 30 วันในการซ่อมแซม ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้ว่ากทพ.ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และเท่าที่ดูก็ไม่พบผู้สูญหายแล้ว
ส่วนการตรวจสอบพบว่า สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากตัวโครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงทำให้คานสะพานเกิดการทรุดตัว ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้ามายังกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน
"มาตรการลงโทษจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.มาตรการที่กำหนดในสัญญา ทั้งการสั่งหยุดงานหรืออื่นๆ ที่กทพ.ทำได้เลย และ 2. มาตรการที่หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจต้องเข้มข้นกว่าเดิม โดยมีมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา เพื่อเพิ่มความเข้มข้นมากกว่าที่มีอยู่ โดยคาดว่ากรมบัญชีกลางจะออกระเบียบในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งหน่วยงานรัฐก็เตรียมความพร้อมที่จะปฏิบัติตาม และเน้นย้ำการทำงานที่จะต้องปลอดภัยมากขึ้น" นายอภิรัฐกล่าว