รัสเซียให้คุณค่าอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับจีน และมุ่งมั่นเติมเต็มทุกพันธสัญญาที่มีต่อคู่หูแห่งนี้ จากคำประกาศกร้าวของเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมอสโก ระบุความพยายามใดๆของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับปักกิ่ง จะไม่มีวันได้ผล
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการพอดแคสต์สหรัฐฯ เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อวันพุธ(12มี.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ถูกถามความเห็นเกี่ยวกับความกล่าวอ้างที่ว่าอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อความผิดพลาดทางนโยบาย ด้วยการผลักให้รัสเซียใกล้ชิดจีนมากยิ่งขึ้น ผ่านปฏิกิริยาตอบสนองของวอชิงตันต่อความขัดแย้งในยูเครน
ในเรื่องนี้ ลาฟรอฟ ตอบว่า "อเมริการู้ดีว่า เราจะไม่ทรยศคำมั่นสัญญาของเรา คำมั่นสัญญาทางกฎหมาย คุณรู้ดีว่า พันธสัญญาทางการเมืองแบบไหนที่เรามีกับจีน" รัฐมนตรีต่างประเทศรัรสเซียรับประกัน "เราไม่เคยมีความสัมพันธ์กับจีนดีเท่านี้มาก่อน มันคือการเสริมสร้างความไว้วางใจในระยะยาว ที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประชาชนของทั้ง 2 ชาติ"
พวกผู้ดำเนินการสัมภาษณ์ได้พูดถึงแนวทางของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน ที่ดูเหมือนจะเลียนแบบประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ที่สานสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์กับจีนในปี 1972 เพื่อการันตีว่าความแตกแยกระหว่างจีนกับสหภาพโซเวียตยังคงอยู่ต่อไป
ในเรื่องนี้ ลาฟรอฟ ยืนยันว่า "กรณีแวดล้อมปัจจุบัน มันแตกต่างอย่างสุดขั้วกับช่วงทศวรรษ 1970" พร้อมชี้ว่ามอสโกเคยยึดมั่นคำสัญญาที่ทำไว้กับตะวันตกในสมัย มิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำโซเวียต แลกกับคำรับประกันว่า นาโต จะไม่ขยายเขตแดนมาทางทิศตะวันออก แต่สุดท้ายแล้วมันกลับถูกละเมิด
"ตอนนี้ พวกเขากลับมาบอกว่าไม่มีพันธสัญญาทางกฎหมาย ที่ห้ามขยายเขตแดนของนาโต ไม่เป็นไร ถ้าคุณบอกว่าจะปฏิบัติตามคำสัญญาของคุณภายใต้ศาลเท่านั้น เมื่อนั้นคุณก็จำเป็นต้องทำให้ทุกคำสัญญาของคุณมีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีเกียรติ เป็นบุรุษที่มีเกียรติ เมื่อคุณตกลงอะไรบางอย่างด้วยคำมั่นสัญญาทางการเมือง คุณก็จำเป็นต้องทำตาม"
รัสเซียมองการปรากฏตัวของนาโตตามแนวชายแดนของพวกเขา และคำสัญญาอนุมัติสถานภาพความเป็นสมาชิกของยูเครน เป็นปัจจัยสำคัญของความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น รัฐบาลทรัมป์บ่งชี้ว่าต้องการยุติการสู้รบในยูเครนอย่างรวดเร็ว และเปิดทางสำหรับความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันกับรัสเซีย
ลาฟรอฟหวังว่าท่าทีดังกล่าวจะเป็นปกติวิสัยในความประสงค์คืนสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย เปิดทางให้ทั้ง 2 ชาติ คลี่คลายความเห็นต่างด้วยสันติวิธี
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)