xs
xsm
sm
md
lg

ขึ้นอยู่กับรัสเซีย! ยูเครนโอเคข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน US คืนความช่วยเหลือทางทหาร-ข่าวกรอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สหรัฐฯ ในวันอังคาร (11 มี.ค.) เห็นพ้องคืนความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครน ตามหลังการเจรจาที่เคียฟบอกว่ายอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ สำหรับการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ในความขัดแย้งกับรัสเซีย และเวลานี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมอสโก

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าเวลานี้อเมริกาได้นำข้อเสนอไปยื่นต่อรัสเซีย และมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของวังเครมลิน "ประธานาธิบดีต้องการให้สงครามนี้จบลงตั้งแต่เมื่อวาน ดังนั้นความหวังของเราคือรัสเซียจะตอบกลับมาว่าตกลง อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่เราจะเดินหน้าสู่เฟส 2 ของเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นการเจรจาที่แท้จริง" รูบิโอ อ้างถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ หลังเจรจาในกรุงเจดดาห์ เป็นเวลากว่า 8 ชั่วโมง

เครมลินเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อ 3 ปีก่อน และรัสเซีย ซึ่งเวลานี้กำลังรุกคืบอย่างต่อเนื่อง เวลานี้ยึดครองดินแดนของยูเครนได้ราว 1 ใน 5 ในนั้นรวมถึงแคว้นไครเมีย ที่พวกเขาผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014

รูบิโอ บอกว่าวอชิงตันต้องการตกลงอย่างเต็มรูปแบบกับทั้งรัสเซียและยูเครน อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ "ทุกๆ วันที่ผ่านมา ท่ามกลางสงครามที่ยังคงดำเนินไป ผู้คนล้มตาย ผู้คนถูกทิ้งบอมบ์ ผู้คนต่างได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฟากฝั่งของความขัดแย้ง"

อย่างไรก็ตาม ท่าทีตอบสนอของรัสเซียจนถึงตอนนี้ยังคงไม่แน่นอน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกว่าพวกเขาเปิดกว้างสำหรับหารือข้อตกลงสันติภาพ แต่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการสละดินแดน และระบุยูเครนต้องถอนตัวออกไปอย่างสมบูรณ์จากแคว้นต่างๆ ของยูเครน ที่รัสเซียกล่าวอ้างและยึดครองบางส่วน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ซึ่งอยู่ในซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเจรจา บอกว่าข้อตกลงหยุดยิง "เป็นข้อเสนอที่เป็นบวก" ที่ครอบคลุมแนวหน้าของความขัดแย้ง ไม่ใช่แค่การสู้รบทางอากาศและทางทะเลเท่านั้น

ในซาอุดีอาระเบีย สหรัฐฯ และยูเครนบอกว่าพวกเขาเห็นพ้องหาข้อสรุปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เกี่ยวกับข้อตกลงอย่างครอบคลุมสำหรับพัฒนาทรัพยากรแร่อันสำคัญของยูเครน ข้อตกลงที่พูดคุยกันมานานหลายสัปดาห์แล้ว และนำมาซึ่งศึกวิวาทะกันระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี ที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ผู้ช่วยระดับสูงของเซเลนสกี บอกว่าได้มีการพูดคุยหารือกับพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ สำหรับรับประกันความปลอดภัยแล้ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ในขณะที่การรับประกันด้านความมั่นคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเคียฟ และบางชาติยุโรปแสดงความตั้งใจสำรวจหนทางความเป็นไปได้ที่จะส่งกองกำลังสันติภาพเข้าประจำการ

ในถ้อยแถลงร่วม ยูเครนเน้นน้ำว่าบรรดาพันธมิตรยุโรป ควรเกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภาพ ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต จะเดินทางไปยังทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.)

ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรตัวยงของเคียฟ ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายสงครามแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และถาโถมแรงกดดันเข้าใส่ยูเครน

ไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ บอกว่าการคืนความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่ยูเครนในเบื้องต้น จะเกี่ยวข้องกับยุทโธปกรณ์จากคลังแสงของอเมริกา ซึ่งมันได้รับความเห็นชอบตั้งแต่สมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ใช้กฎหมายที่เรียกกันว่า อำนาจเบิกถอนของประธานาธิบดี "Presidential Drawdown Authority" ก่อนลงจากตำแหน่ง แต่ถูกสั่งหยุดโดยทรัมป์ ตามหลังศึกวิวาทะในทำเนียบขาว

ท่ามกลางความพยายามทางการทูต สถานะในสนามรบของยูเครนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ดินแดนที่กองกำลังมอสโกเปิดฉากตีโต้ขับไล่ทหารเคียฟ ที่พยายามรักษาฐานที่มั่นแห่งนี้ เพื่อเป็นเบี้ยต่อรองในการเจรจา

เมื่อคืนวันจันทร์ (10 มี.ค.) ยูเครนได้เปิดฉากโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เล่นงานมอสโกและภูมิภาคโดยรอบ แสดงให้เห็นว่าเคียฟยังคงสามารถก่อความเสียหายแก่รัสเซีย หลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธและใช้โดรนโจมตี คร่าชีวิตผู้คน 14 รายในวันเสาร์ (8 มี.ค.)

ยูเครนบอกว่าโดรนของพวกเขาโจมตีโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้มอสโก และสิ่งปลูกสร้างแห่งหนึ่งในแคว้นโอริออลของรัสเซีย ซึ่ง ฮังการี เผยว่าการส่งมอบน้ำมันดิบผ่านท่อลำเลียงดรูซบาของรัสเซีย ถูกระงับไปหลังการโจมตี

(ที่มา : รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น