เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่ออเมริกันชื่อดังเปิดฉากรบป้องผลประโยชน์ชี้ สหรัฐฯ เป็นเจ้าสังเวียนส่งออกอาวุธทางการป้องกันประเทศใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมย้ำ “ยุโรปต้องรู้” หลังพยายามผลักดันอุตสาหกรรมการทหารภายในกลุ่มประเทศ EU ไม่พอใจทรัมป์ลอยแพยูเครนกระทบความมั่นคงทั้งยุโรป
CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันที่ 10 มี.ค. ว่า ยุโรปในเวลานี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อใช้งบประมาณมหาศาลในการขยายเซ็กเตอร์อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศออกไป
เกิดขึ้นหลังรัฐบาลบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ที่เพิ่งเข้าทำงานเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ทว่าผู้นำอเมริกันคนใหม่ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ กลับถอยห่างจากยุโรปต่างจากอดีตประธานาธิบดีที่ผ่านๆ มา ทรัมป์ประกาศแผนยุติสงครามยูเครนด้วยการจรจากับรัสเซียโดยที่ไม่ยอมเชิญเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป หรือแม้แต่ยูเครนเข้าร่วมสร้างความตกใจไปทั้งยุโรป
การก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายใหม่ในการเป็นผู้ส่งออกอาวุธของยุโรปอาจสร้างความหนักใจให้สหรัฐฯ เจ้าสังเวียน
โดยในวันพฤหัสบดี (7) ก่อนหน้า สมาชิก 27 ชาติอียูได้ไฟเขียวข้อเสนอสำหรับงบหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับงบการป้องกันประเทศ
บรรดาผู้นำชาติอียูได้หารือข้อเสนอจากหัวหน้าฝ่ายบริหารของ EU ที่ว่าจะเสนอให้เงินกู้กับประเทศชาติสมาชิกสูงถึง 150 พันล้านยูโร (163 พันล้านดอลลาร์) พร้อมกล่าวว่า แผนการจะถูกศึกษาก่อนหน้าการประชุมที่จะเกิดขึ้นในสิ้นเดือนนี้
ซึ่งหากจะรวมอังกฤษเข้าไปกับยุโรปทั้งภูมิภาค บริษัทอาวุธชื่อดังของอังกฤษ Raytheon มีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีชั้นเลิศและเป็นคู่สัญญากับเพนตากอน
ขณะที่เยอรมนีมีบริษัทชั้นนำเช่น Heckler & Koch ผลิตปืนไรเฟิลชื่อดัง ส่วนฝรั่งเศสมี บริษัทแอร์บัส และบริษัทผลิตเครื่องบินรบ Dassault Aviation ขณะที่อิตาลีมีบริษัท Agusta เป็นผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ชื่อดัง ส่วนสวีเดนมีบริษัท Saab ผลิตเครื่องบินรบกริพเพนที่รัฐบาลไทยเลือกใช้แทนฝูงเครื่องบิน F-16 ของสหรัฐฯ เป็นต้น
CNN รายงานต่อว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปใช้จ่าย 1.9% ของจีดีพีในด้านการป้องกันประเทศปีที่เพิ่งผ่านมา แต่ทว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกันเลือดร้อนคนใหม่ พีธ เฮกเซธ (Pete Hegseth) เดือนที่ผ่านมาเรียกร้องให้แต่ละชาติต้องรับผิดชอบความมั่นคงของตัวเองถึงแม้สหรัฐฯ จะยังคงมีพันธะผูกพันในนาโตต่อไป
ยุโรปพึ่งพาระบบอาวุธอเมริกันมานานร่วมสิบปีและโดยเฉพาะหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022 ที่สร้างความวิตกไปทั่วส่งผลทำให้อาวุธอเมริกันเข้าสู่ยุโรปคิดเป็น 2 ใน 3 เพิ่มจากแค่ 50% ระหว่างปี 2015 ถึงปี 2019
อ้างอิงจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งสตอกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research Institute: SIPRI) ที่มีฐานในกรุงสตอกโฮล์ม และเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่ระบบอาวุธอเมริกันส่วนใหญ่ไหลเข้าเป็นวงกว้างของสหภาพยุโรปมากกว่าที่ภูมิภาคตะวันออกกลาง
CNN ชี้ว่า ข้อมูลชี้ว่า ยุโรปใช้นโยบาย 2 ขาพึ่งพาอเมริกาเพื่อความมั่นคงของตัวเอง โดยต้องการใช้ระบบอาวุธอเมริกาในการพึ่งพาและในเวลาเดียวกันสำหรับคำมั่นสัญญาทางการทหารอเมริกันในการช่วยเหลือต่อสงครามที่จะเกิดในอนาคต
การที่ยุโรปจะก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งนั้น CNN ชี้ว่า ข้อมูลใหม่ของ SIPRI เปิดเผยว่า สหรัฐฯได้ขยายการนำในการเป็นผู้ส่งออกอาวุธป้องกันประเทศทิ้งห่างจากชาติอื่นและกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยที่มียุโรปปัจจุบันเป็นลูกค้าหลัก
สหรัฐฯเป็นเจ้าส่งออกทั่วโลก 43% ระหว่างปี 2020-2024 หรือมากกว่า 4 เท่าจากอันดับ 2 คือ "ฝรั่งเศส" จากยุโรป