จากกรณีที่ศาลฎีกาตัดสินให้ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นฝ่ายเอาชนะคดีการยกเลิกสัญญาถ่ายทอดสด ในยุคที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯในยุคของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ต้องรับผิดชอบเสียค่าชดใช้เป็นจำนวนเงิน 360 ล้านบาท พร้อม ดอกเบี้ย
ทำให้ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ได้นัดสื่อมวลชนเข้ารับฟังคำแถลง พร้อมแฉถึงการทำงานของสมาคมในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ ในเรื่องการเงิน
นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการหลังศาลฎีกาตัดสินคดีสำคัญกับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)จากนี้ จะเข้าสู่กระบวนการประชุมการสภา เพื่อทำการฟ้องไล่เบี้ยเอาเงินคืนจากการแพ้คดี สยามสปอร์ต 360 ล้านบาท + ดอกเบี้ย ตามมาตรา 76 แพ่งและพาณิชย์ แก่ จำเลยทื่ 2 คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคม และสภากรรมการชุดที่แล้ว
นางนวลพรรณ ยังเผยต่อว่า พล.ต.อ.สมยศ ยังได้มีการกู้เงินจากฟีฟ่าจำนวน 5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 155 ล้านบาท) ทำให้ฟีฟาต้องหักเงินจากสมาคมทุกปี ถึงปี 2575 และยังมีการรับเงินเดือนจากสมาคมและไทยลีกรวมแล้ว 1 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ทาง ดร.ก้องศักด ได้บอกว่าตำแหน่งนายกสมาคมเป็นตำแหน่งจิตอาสา ไม่ใช่ลูกจ้าง กกท. จึงไม่สามารถรับเงินเดือนได้ ทำให้ตอนนี้ตนให้เจ้าหน้าที่ตามเช็กว่าที่ พล.ต.อ. สมยศ ยืนยันว่ามีการบริจาคคืนมาแล้ว 32 ล้านบาทเป็นจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังหาหลักฐานไม่เจอ
นอกจากนี้ “มาดามแป้ง” ยังเผยว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ. สมยศ ก่อนจะมาแถลงในครั้งนี้ เพราะมันจะทำให้ตน ไม่สามารถมีจิตใจที่หนักแน่นและมั่นคงในการแถลงครั้งนี้ได้ แต่ได้คุยกับ เนวิน ชิดชอบ
นอกจากนี้ "มาดามแป้ง" ได้มีการแถลงถึงผลงานในการดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ทั้ง ฟุตบอลไทยลีก กลับมามีผู้ถือลิขสิทธิ์อีกครั้ง และทำให้สโมสรได้รับเงินสนับสนุนตรงเวลา,อัพเกรด VAR เป็นชาติแรกในอาเซียน ทั้ง T1 และ T2 ,ได้รับคำชื่นชมจากการเป็นเจ้าภาพ ฟีฟ่า ครองเกรส ,สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้รางวัลสมาคมยอดเยี่ยม AFC ระดับ Diamond และพาทีมชาติไทย พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 97 ของโลก เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี