องค์ทะไลลามะ (Dalai Lama) ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดของชาวทิเบต ประกาศผ่านหนังสือเล่มใหม่ว่าหลังจากที่มรณภาพไปแล้วจะทรงกลับชาติมาเกิดใหม่ “นอกแผ่นดินจีน”
องค์ทะไลลามะ พระชันษา 79 ปี ตรัสผ่านหนังสือ Voices for the Voiceless ที่เริ่มวางจำหน่ายในวันนี้ (11 มี.ค.) ว่า ชาวทิเบตทั่วโลกต้องการให้สถาบันทะไลลามะดำรงคงอยู่ต่อไปหลังจากที่พระองค์เองสิ้นชีวิตไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ ทะไลลามะเคยตรัสว่าสายการสืบทอดตำแหน่งผู้นำจิตวิญญาณชาวทิเบตอาจจะสิ้นสุดลงที่พระองค์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหนังสือเล่มใหม่นี้ถือเป็นครั้งแรกที่องค์ทะไลลามะได้ตรัสอย่างชัดเจนว่า จะมีผู้นำจิตวิญญาณพระองค์ใหม่ถือกำเนิดขึ้นใน “โลกเสรี” ซึ่งไม่ใช่บนแผ่นดินจีน โดยก่อนหน้านี้พระองค์เคยตรัสแค่ว่าจะทรงกลับชาติมาเกิด “นอกทิเบต” ซึ่งอาจหมายถึงอินเดียที่เป็นสถานที่ที่ทรงอาศัยลี้ภัยมานานกว่า 60 ปีก็เป็นได้
“เนื่องจากเป้าหมายของการกลับชาติมาเกิดใหม่ก็เพื่อสานต่องานของทะไลลามะพระองค์ก่อน ทะไลลามะพระองค์ใหม่จึงจะถือกำเนิดในโลกเสรี เพื่อให้ภารกิจตามประเพณีของทะไลลามะ ซึ่งก็คือการเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องไปสู่ความเมตตากรุณาสากล การเป็นผู้นำจิตวิญญาณของพระพุทธศาสนาแบบทิเบต และการเป็นสัญลักษณ์ของทิเบตที่รวบรวมไว้ซึ่งความปรารถนาของชาวทิเบตทุกคน ได้ดำเนินต่อไป” องค์ทะไลลามะ ระบุ
เทนซิน กยัตโซ (Tenzin Gyatso) ซึ่งเป็นทะไลลามะพระองค์ที่ 14 ได้ทรงหลบหนีจากทิเบตเข้าไปยังอินเดียขณะมีพระชนมายุเพียง 23 พรรษาพร้อมกับผู้ศรัทธาชาวทิเบตอีกหลายพันคนเมื่อปี 1959 หลังความพยายามลุกฮือต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ของ เหมา เจ๋อตง ล้มเหลว
รัฐบาลปักกิ่งยืนกรานจะเป็นผู้คัดเลือกทะไลลามะพระองค์ใหม่ ทว่าองค์ทะไลลามะเองตรัสว่า ผู้สืบทอดที่ถูกคัดเลือกโดยจีน “จะไม่ได้รับการยอมรับ”
องค์ทะไลลามะทรงได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1989 เพื่อเป็นการยกย่องในแคมเปญอหิงสาของพระองค์เพื่อยุติการปกครองทิเบตของจีน ขณะที่รัฐบาลจีนตราหน้าพระองค์ว่าเป็น “นักแบ่งแยกดินแดน” (separatist)
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับหนังสือเล่มใหม่ของทะไลลามะเมื่อวานนี้ (10) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ทะไลลามะ “เป็นผู้ลี้ภัยการเมืองที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการแบ่งแยกดินแดนจีน โดยอาศัยศาสนามาเป็นข้ออ้าง”
“ในประเด็นเกี่ยวกับทิเบต จีนมีจุดยืนที่ชัดเจนมั่นคง สิ่งที่ทะไลลามะกล่าวและกระทำไม่อาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาที่กำลังเกิดขึ้นในทิเบตได้”
รัฐบาลจีนแถลงเมื่อเดือน ก.พ. ว่ายังคงคาดหวังให้องค์ทะไลลามะ “กลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง” และพร้อมจะพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของพระองค์ ขอเพียงทรงยอมรับว่าทิเบตและไต้หวันคือดินแดนจีนที่ไม่อาจถูกแบ่งแยกได้ และมีรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงหนึ่งเดียว
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธจากรัฐสภาทิเบตในต่างแดน (Tibetan parliament-in-exile) ซึ่งตั้งอยู่ในอินเดีย
บรรดาสาวกผู้ศรัทธาในองค์ทะไลลามะต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพพลานามัยของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังทรงเข้ารับการผ่าตัดเข่าเมื่อปีที่แล้ว
พระองค์เคยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ไว้เมื่อเดือน ธ.ค. ว่าจะทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ถึง 110 ปี
ที่มา: รอยเตอร์