ลำปาง - ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ ยัน..ไม่มีชุลมุนภายในทัณฑสถานจนมีผู้ต้องขังบาดเจ็บ 15 ราย บอกแค่ผู้ต้องขังคนเชียงใหม่กับลำปาง ขัดแย้งชกต่อยกันธรรมดา ไม่มีการใช้อาวุธ-ทุกอย่างปกติแล้ว พร้อมให้ จนท.จัดระเบียบ-แยกคนก่อเหตุไว้คนละห้อง
บ่ายวันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา ผู้ต้องขังภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ก่อเหตุชุลมุนชกต่อยกันและมีการใช้อาวุธปลายแหลม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 15 คน หนึ่งในนั้นมีบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทั้งหมดถูกส่งรักษาตัวสถานพยาบาลภายในทัณฑสถานฯ
สอบถามนายเลิศชาย ชูรัตน์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง กล่าวว่าเกิดการชกต่อยกันธรรมดาระหว่างผู้ต้องขังซึ่งขัดแย้งกัน ซึ่งเป็นชาวเชียงใหม่กับลำปาง แต่เป็นการทะเลาะวิวาทกันตามปกติไม่มีการใช้อาวุธ ไม่มีการยกพวกตีกัน ไม่มีการก่อจลาจล หรือเกิดความรุนแรงตามที่เป็นข่าว ผู้บาดเจ็บก็เป็นเพียงการบาดเจ็บเพราะการต่อสู้กันเท่านั้นไม่มีการใช้อาวุธ
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุได้เรียบร้อยทุกอย่างปกติแล้ว เชื่อว่าคนที่ให้ข่าวอาจจะเป็นคนที่ไม่หวังดีต่อทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ซึ่งก็ได้แจ้ง จนท.ทุกคนไปแล้วว่าหากให้ข่าวที่ไม่เป็นผลดีต่ออง์กรและเป็นข่าวไม่จริงแล้วก็จะเกิดความเสียหายกับองค์กร
“ที่ผ่านมาก็มีบ้างผู้ต้องขังอยู่รวมกันจำนวนมากอาจจะมีไม่พอใจไม่ชอบใจเขม่นกันบ้างและชกต่อยกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้มีเหตุรุนแรงถึงขั้นที่เกิดจลาจล จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมได้แต่อย่างใด”
ส่วนในช่วงบ่ายตนได้เรียกเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดระเบียบและแยกห้องผู้ต้องขังที่ก่อเหตุให้อยู่กันคนละส่วน เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำเท่านั้น ซึ่งปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปควบคุมดูแลเป็นประจำ เนื่องจากที่นี่มีผู้ต้องขังคดียาเสพติด ที่เป็นผู้ชายที่เหลือเวลาคุมขังไม่เกิน 5 ปี จำนวน 900 กว่าคน มีผู้คุม 30-40 คน คอยดูแล
ทั้งนี้ผู้ต้องขังที่อยู่ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ทางทัณฑสถานจะมีการอบรมธรรมะ นิมนต์พระสงฆ์เข้ามาแสดงธรรมเพื่อกล่อมเกลาจิตใจเป็นประจำ พร้อมกับมีการฝึกอาชีพทุกอย่างที่สามารถเสริมอาชีพให้ได้เพื่อให้ผู้ต้องขังมีงานมีอาชีพทำเมื่อพ้นโทษ
ส่วนเรื่องยาเสพติดทางทัณฑสถานจะมีการสุ่มตรวจสารในร่างกายเป็นประจำ ซึ่งก็ไม่พบว่าผู้ต้องขังมีสารเสพติดเนื่องจากเมื่อเข้ามาอยู่ทัณฑสถานฯ 1-2 เดือนก็จะขาดยาและก็จะอยากยาแล้วทำให้ทุกคนปลอดยาเสพติด100%แต่เมื่อออกไปภายนอก ควบคุมไม่ได้จึงทำให้บางคนกลับไปเสพและต้องย้อนกลับเข้ามาอีกโดนมีสัดส่วนการกลับเข้ามาปีละประมาณ10%
