กาญจนบุรี - ดีกันแล้ว! ครูปรีชา-คู่กรณีเจ้าของบ้านจับมือคืนดีกันแล้ว หลังมีปัญหาเรื่องค่าเช่าบ้าน ล่าสุดได้นำช่างมาซ่อมแซม พร้อมถมดินที่เคยขุดทำเป็นบ่อปลาและบึงบัว
จากกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เช่าบ้านเดี่ยวชั้นเดียวบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ประกอบกิจการร้านอาหาร ชื่อ “บ้านสวนครูปรีชา” ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งครูปรีชาลงมือเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเอง เน้นเมนูเด็ด แกงป่าไก่ไทย ยำรวย 30 ล้าน ปีกไก่ทอด หมูสามชั้นทอดน้ำปลา และอาหารบ้านอีกหลายรายการ เริ่มแรกมีเพื่อนที่เป็นครูด้วยกัน รวมทั้งลูกศิษย์และคนรู้จักมาเป็นลูกค้าอุดหนุนอย่างเนืองแน่น โดยเริ่มเปิดร้านอาหารมาตั้งแต่ประมาณ ปี 2560 และหลังจากคดีหวย 30 ล้านเริ่มซาลง ข่าวของครูปรีชา ค่อยๆ เงียบหายไป
แต่แล้วจู่ๆ เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีข่าวในเชิงลบเกี่ยวกับตัวครูปรีชาขึ้นมาอีก เมื่อเจ้าของบ้านและที่ดินที่ครูปรีชาเปิดเป็นร้านอาหาร ถูกเจ้าของเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี แจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากครูปรีชาที่ย้ายออกไปไม่ยอมจ่ายค่าเช่า อีกทั้งตัวบ้านได้รับความเสียหายจากการตกแต่ง ซึ่งเจ้าของบ้านเช่าคือนางพิมลวรรณ กลั่นผลหรั่ง อายุ 57 ปี หลังเป็นข่าวครูปรีชา ได้ชี้แจงว่าไม่ได้หนีไปไหน พร้อมที่จะจ่ายค่าเช่าที่ค้างเอาไว้ ส่วนบ้านที่เสียหายจะนำช่างมาซ่อมแซมให้กลับมาดูดีเช่นเดิม ซึ่งเป็นไปตามที่ครูปรีชาได้ประกาศเอาไว้
ล่าสุด วันนี้ ( 5 มี.ค.) นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา และนางพิมลวรรณ กลั่นผลหรั่ง ได้มีการนัดหมายเดินมาสำรวจความเรียบร้อยภายในตัวบ้านพร้อมกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ครูปรีชา ได้นำช่างมาซ่อมแซมเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนอกจากนี้พื้นที่โดยรอบตัวบ้านที่ครูปรีชาเคยขุดทำเป็นบ่อปลาและบึงบัว ครูปรีชาได้นำดินมาถมกลบเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ทำให้นางพิมลวรรณ เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
สำหรับค่าภาษีโรงเรือนที่ครูปรีชา จ่ายไปก่อนหน้านี้ จำนวน 4,000 บาทนั้น นางพิมลวรรณ กลั่นผลหรั่ง เจ้าของบ้านมีความยินดีที่จะจ่ายเองจึงนำเงินจำนวนดังกล่าวมอบคืนให้ครูปรีชา และพร้อมที่จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีเพื่อถอนแจ้งความด้วยความเต็มใจ โดยหลังจากทั้งคู่เจรจากันได้อย่างลงตัวและทำสัญญาส่งมอบคืนบ้านเช่าให้กันเป็นที่เรียบร้อยทั้งคู่จึงจับมือและยินดีที่จะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันต่อไป
